“กกร.”หารือผลสรุปเห็นด้วยเข้าร่วมทีพีพี9กพ.นี้เผยนักลงทุนเริ่มกดดันหวั่นไทยตกขบวนคู่แข่ง

นายวัลลภ วิตนากร รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า วันที่ 9 กุมภาพันธ์ จะมีการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน(กกร.)ที่ประกอบด้วย ส.อ.ท. สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย จะรับทราบข้อสรุปของคณะทำงานกกร.เกี่ยวกับการเข้าร่วมในข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิกหรือ ทีพีพี โดยผลเบื้องต้นภาคเอกชนสนับสนุนให้รัฐบาลไทยเข้าร่วมเป็นภาคีดังกล่าวโดยเร็ว ขณะที่ความตกลงพันธมิตรรทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาคหรือ อาร์เซป ก็ควรทำควบคู่กันไป

นายวัลลภกล่าวว่า นอกจากนี้ที่ประชุมจะรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับนโยบายประชารัฐที่มีการขับเคลื่อนร่วมกับกกร. โดยเฉพาะแนวทางการช่วยเหลือวิสาหกิจขนาดกลางและย่อม(เอสเอ็มอี) รวมถึงจะมีการประเมินทิศทางเศรษฐกิจและการส่งออกในปี 2559 และผลสรุปภาวะเศรษฐกิจในปี 2558 ที่ผ่านมาโดยสมาคมธนาคารไทยด้วย

แหล่งข่าวจากสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ขณะนี้นักลงทุนต่างชาติโดยเฉพาะญี่ปุ่นส่งสัญญาณชัดเจนว่ากำลังติดตามท่าทีไทยในการเข้าร่วมทีพีพี เพราะจะมีผลต่อการตัดสินใจการลงทุนในไทยค่อนข้างมาก หากไทยไม่เข้าร่วมจะทำให้ฐานการผลิตและส่งออกในไทยมีความเสี่ยงไม่สามารถแข่งขันได้ ทำให้การลงทุนใหม่อาจถูกย้ายไปยังประเทศเวียดนาม และหากอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์เข้าร่วมจะยิ่งกดดันไทยหนักขึ้น ทั้งนี้ปัจจุบันไทยมีข้อเสียเปรียบคือปัญหาการเมือง อาจทำให้การเดินไปสู่ทีพีพีไม่ง่ายนักต้องรอให้เกิดการเลือกตั้งในปี 2560ก่อนหรือไม่ ทำให้นักลงทุนยังคงติดตามใกล้ชิด

นายธนิต โสรัตน์ รองประธานภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย(อีคอนไทย) กล่าวว่า เคยคัดค้านการเข้าร่วมทีพีพี แต่ปัจจุบันเปลี่ยนไปเพราะมีสมาชิกถึง 12 ประเทศ โดยเฉพาะอาเซียน คือ เวียดนามและมาเลเซีย ดังนั้นไทยต้องมองว่าจะเจรจาอย่างไรให้ได้เข้าร่วมสมาชิกทีพีพี ล่าสุดฟิลิปินส์และอินโดนีเซียชัดเจนที่พร้อมจะเข้าร่วมแล้ว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image