สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดไทย ประเมินจีดีพี ปี’65 โต 3% พร้อมจับตาการขึ้นดอกเบี้ยของแบงก์ชาติ

สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดไทย ประเมินจีดีพี ปี 65 โต 3% พร้อมจับตาการขึ้นดอกเบี้ยของแบงก์ชาติ

เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม นายทิม ลีฬหะพันธุ์ นักเศรษฐศาสตร์ ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) เปิดเผยว่า การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ปี 2565 อยู่ที่ 3.0% ซึ่งเป็นการฟื้นตัวจะเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากยังไม่มีสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจนในขณะนี้ อย่างไรก็ตาม อาจจะมีการทบทวนมุมมองนี้อีกครั้ง ที่ต้องรอดูตัวเลขชี้วัดทางเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคช่วงปลายปี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภาพรวมการเปิดประเทศหลังจากวันที่ 1 พฤศจิกายน

นโยบายทางการคลังยังคงเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจโดยรวม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์หลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 น่าจะมีการกระตุ้นในภาคการบริโภคและการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่โครงการการลงทุนต่างๆ น่าจะกลับมาเดินหน้าต่อ ซึ่งมีโอกาสต่อยอดการเติบโตของเศรษฐกิจได้มากขึ้นอีก
สิ่งที่ต้องจับตามองในปีหน้าจะอยู่ที่นโยบายทางการเงินแทน โดยตลาดอาจตั้งคำถามว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในระดับปัจจุบันเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของภาคธุรกิจไว้ได้อย่างไร ในขณะที่ธนาคารกลางประเทศอื่นๆ เริ่มขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายกันบ้างแล้ว

ทั้งนี้ ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด คาดว่าค่าเงินบาทต่อเหรียญสหรัฐในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2565 จะอยู่ในกรอบ 31-32 บาท บนปัจจัยบวกต่างๆ ซึ่งรวมถึงการเปิดประเทศ และการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว โดยมีปัจจัยภายนอกและปัจจัยภายในประเทศหลายประการที่จะส่งผลต่อความผันผวนของค่าเงินบาทในปี 2565 ไม่ว่าจะเป็นแนวโน้มการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐ-จีน จะกลับมาเป็นที่จับตาอีกครั้งในยุคหลังโควิด

Advertisement

ปัจจัยภายในประเทศที่ต้องจับตามอง คือพัฒนาการทางการเมือง ที่อาจจะมีการเลือกตั้งใหม่ภายในปีหน้า และสถานการณ์โควิดหลังเปิดประเทศ อีกทั้ง นักลงทุนเริ่มมองปัจจัยอื่นๆ ในช่วงหลังโควิด เช่น ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ หรือภาวะเงินเฟ้อของไทยหรือไม่ รวมทั้งจับตาดูว่าการท่องเที่ยวจะฟื้นกลับมาได้อย่างที่คาดการณ์ไว้ 5-6 ล้านคน หรือไม่ นอกจากนี้ มีความท้าทายเชิงโครงสร้าง ที่ว่ารัฐบาลจะสามารถดึงดูดภาคธุรกิจทั้งในและต่างประเทศให้ลงทุนในประเทศเพิ่มขึ้นได้อย่างไร และการแสดงให้เห็นถึงความคืบหน้าของโครงการเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรืออีอีซี อย่างชัดเจน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image