ลูกหนี้อ่านด่วน!! รวมถามตอบ ‘มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ของแบงก์ชาติ’…ฉบับละเอียดยิบ
วันที่ 28 ตุลาคม ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ได้โพสต์เนื้อหารวมตอบคำถามที่หลายคนอาจจะยังสงสัยเกี่ยวกับมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ของแบงก์ชาติ ดังนี้
การปรับโครงสร้างหนี้ตามมาตรการแก้หนี้ระยะยาว 3 ก.ย. 64 จะเสียประวัติ/ติดเครดิตบูโรหรือไม่?
-การปรับโครงสร้างหนี้ก่อนเป็น NPL ไม่ทำให้เสียประวัติและไม่ติดเครดิตบูโรดังนั้น เมื่อเริ่มมีปัญหา ต้องรีบติดต่อสถาบันการเงินก่อนเป็น NPL เพราะหากเป็นแล้วจะแก้ไขได้ยาก
การเข้าร่วมมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ของแบงก์ชาติ จะโดนเรียกเก็บดอกเบี้ยผิดนัดหรือไม่ ?
-ไม่ถือเป็นการผิดเงื่อนไขการชำระหนี้ตามสัญญา โดยสถาบันการเงิน จะไม่เรียกเก็บดอกเบี้ยในอัตราผิดนัด หรือค่าใช้จ่ายอื่นใดเพิ่มเติม
มาตรการแก้หนี้ระยะยาว (3 ก.ย.) ครอบคลุมสินเชื่อประเภทใดบ้าง ?
-หนี้ทุกประเภท -ปรับปรุงโครงสร้างหนี้แบบระยะยาว โดยกำหนดการชำระหนี้ให้สอดคล้องกับรายได้ปัจจุบัน ส่วนบุคคลดิจิทัล – คงอัตราการผ่อนชำระขั้นต่ำ
-บัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ สินเชื่อบัตรเครดิต ขยายเพดานวงเงิน หรือระยะเวลาการชำระหนี้
แนวทางการบริหารจัดการด้านการให้สินเชื่ออย่างเป็นธรรม ลูกหนี้ได้ประโยชน์อะไรบ้าง ?
-ประชาชนจะได้ทราบข้อมูลการให้สินเชื่อครบทุกกระบวนการ ได้แก่
ทราบรายละเอียดการเสนอผลิตภัณฑ์สินเชื่อครบถ้วน
ทราบสิทธิของตนเองและผู้ค้ำประกัน
ได้รับการติดตามทวงถามหนี้อย่างเหมาะสม และเรียกเก็บค่าใช้จ่ายตามอัตราที่กำหนด
ได้รับทางเลือกในการปรับโครงสร้างหนี้และไกล่เกลี่ยปัญหาหนี้สิน
ได้รับการดำเนินคดีที่เป็น ธรรม และทราบข้อมูลการ ดำเนินคดีจากผู้ให้บริการ
รับทราบหากมีการขายหรือโอนหนี้ไปยังรายอื่น และได้รูปแบบการผ่อนชำระที่เหมาะสม
การรวมหนี้ (debt consolidation) จะทำให้ถูกยึดบ้านจริงมั้ย ?
หากไม่ชำระหนี้ตามเงื่อนไข เจ้าหนี้มีโอกาสฟ้องยึดทรัพย์สินไม่ว่าบ้านจะเป็นหลักประกันตามสัญญาหรือไม่ก็ตาม
การรวมหนี้ เป็นการใช้ประโยชน์ที่อยู่อาศัยให้เป็นหลักประกันในการบรรเทาภาระดอกเบี้ยและผ่อนค่างวด เมื่อลูกหนี้จ่ายหนี้ได้ตามปกติ ก็จะปลอดภัยจากการถูกฟ้องยึดทรัพย์
อย่างไรก็ตาม ประชาชน สามารถตรวจสอบข้อมูลมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ทั้งรายย่อยและSMEs ผ่าน https://www.bot.or.th/covid19/Pages/default.aspx