เอกชนเฮ ‘กทม.’ ปล่อยขายแอลกอฮอล์เฉพาะได้ ‘เอสเอชเอพลัส’ เชื่อฟื้นยอดขาย 20%

เอกชนเฮ ‘กทม.’ ปล่อยขายแอลกอฮอล์เฉพาะได้ ‘เอสเอชเอพลัส’ เชื่อฟื้นยอดขาย 20%

นางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย เปิดเผยว่า หลังจากรัฐบาลได้ผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์และเปิดให้นั่งทานอาหารที่ร้านได้ ตั้งแต่เมื่อเดือนกันยายน ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้เราเห็นยอดขายที่หายไปกลับมาประมาณ 50% แล้ว เทียบกับช่วงภาวะปกติ รวมถึงได้เรียกร้องให้รัฐบาลปลดล็อกการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แบบนั่งที่ร้านอาหาร หรือในโรงแรมได้ เนื่องจากปกติแล้ว ร้านอาหารจะมีรายได้จากการขายอาหาร 80% และอีก 20% เป็นการขายเครื่องดื่มและแอลกอฮอล์ จึงเชื่อว่าเมื่อรัฐบาลอนุญาตให้ร้านอาหาร และโรงแรมขายแอลกอฮอล์ได้ โดยเฉพาะร้านอาหารจะช่วยดึงยอดขายกลับมาได้อีก 20% รวมเป็น 70% จากภาพรวม โดยเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม กรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้อนุญาตให้ร้านอาหารและโรงแรมที่ได้รับตราสัญลักษณ์เครื่องหมายมาตรฐานความปลอดภัยด้านการท่องเที่ยวและสุขอนามัย (เอสเอชเอพลัส) ขายแอลกอฮอล์ ไม่เกินเวลา 21.00 น. เท่านั้น เพื่อสอดรับกับกำหนดการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ในวันที่ 1 พฤสจิกายนนี้

“เราไม่ได้คาดหวังให้เปิดขายแอลกอฮอล์แล้วจะมีคนทะลักเข้ามาทานอาหาร และดื่มแอลกอฮอล์แบบล้นขนาดนั้น แต่ด้วยความอัดอั้นจากการถูกงดห้ามจำหน่ายมานาน เชื่อว่าจะเห็นแรงจูงใจในการเข้ามาใช้บริการร้านอาหารมากขึ้น เนื่องจากไม่มีใครอยากทำผิดกฎหมายแน่นอน แต่เมื่อถูกห้ามนานๆ ก็เริ่มมีการแอบซื้อดื่มบ้าง จึงมองว่าหากสามารถปล่อยให้ดื่มได้แบบถูกต้อง จะสามารถควบคุมได้ดีมากกว่า” นางฐนิวรรณ กล่าว

ทั้งนี้ จากข้อมูลบนเว็บไซต์ www.thailandsha.com พบว่ามีร้านอาหารที่ได้รับตราเอสเอชเอพลัสแล้ว จำนวน 1,350 ราย โรงแรม ที่พัก และโฮมสเตย์ จำนวน 657 ราย ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า แหล่งประกอบการที่ได้รับตราเอสเอชเอพลัสนั้น พนักงานทั้งหมดได้รับการฉีดวัคซีนครบโดสเกิน 70% แล้ว ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ความมั่นใจและความปลอดภัยด้านการท่องเที่ยวภายใต้ความร่วมมือของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image