ไทย-จีน ปลื้มค้ากันบวก 32% ‘จุรินทร์’ ยก 4 เรื่องลดอุปสรรค สั่งติดตาม 6 พืชเศรษฐกิจ

ไทย-จีน ปลื้มค้ากันบวก 32% ‘จุรินทร์’ ยก 4 เรื่องลดอุปสรรค สั่งติดตาม 6 พืช ศก.

เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน ที่กระทรวงพาณิชย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังนายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ขอเข้าเยี่ยมคารวะในโอกาสเข้ารับตำแหน่ง ว่าความสัมพันธ์ไทย-จีนมีมาต่อเนื่องยาวนาน โดยเฉพาะความสัมพันธ์ด้านการค้าระหว่างกัน มีพัฒนาการมาเป็นลำดับ ตัวเลขปี 2563 ไทยกับจีนมีมูลค่าการค้าระหว่างกัน 2.49 ล้านล้านบาท หรือเกือบ 80,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และช่วง 9 เดือนแรก 2564 สูงกว่าทั้งปี 2563 แล้ว และมีมูลค่ารวม 2.41 ล้านล้านบาท ทำให้มูลค่าการค้าบวก 32% เฉพาะตัวเลขการส่งออกของไทยไปจีน 878,280 ล้านบาท บวก 27%

นายจุรินทร์กล่าวต่อว่า ประเด็นหารือกันวันนี้มีประเด็นสำคัญ 4 เรื่องที่เห็นตรงกันคือ 1.ไทยและจีนต้องการจัดการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคี (JC) ระหว่างกัน เห็นตรงกันว่าจะเร่งจัดขึ้นโดยเร็วที่สุด เพื่อประโยชน์ทางการค้าการลงทุนและความร่วมมือด้านเศรษฐกิจระหว่างกัน 2.ไทยและจีนต้องการเร่งให้ RCEP มีผลบังคับใช้ ซึ่งต้องมีสมาชิกอาเซียน 6 ประเทศเป็นอย่างน้อยให้สัตยาบัน และสมาชิกนอกอาเซียนอย่างน้อย 3 ประเทศให้สัตยาบัน โดยไทยได้ยื่นให้สัตยาบันไปแล้วเมื่อวันที่ 28 ตุลาคมที่ผ่านมา และจะร่วมมือกันเร่งรัดให้ข้อตกลง RCEP มีผลบังคับโดยเร็ว เพื่อประโยชน์ของประเทศสมาชิกทั้ง 15 ประเทศ

นายจุรินทร์กล่าวว่า 3.ไทยและจีนจะร่วมมือกันในการเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระหว่างกัน รวมทั้งเรื่องของรถไฟความเร็วสูงด้วย ซึ่งท่านทูตจีนได้แจ้งว่ารถไฟจากจีนไปลาวเปิดให้บริการแล้ว และจะร่วมมือกับไทยในการเร่งสร้างรถไฟความเร็วสูง เส้นทางที่จะเชื่อมลาว เพื่อให้ระบบการขนส่งสินค้าเข้าออกระหว่างกันนั้น มีความคล่องตัวและเพิ่มมูลค่าได้มากขึ้นโดยเร็ว และ 4.ไทยกับจีนจะร่วมมือกันในการนำเข้าส่งออกสินค้าระหว่างกัน โดยท่านทูตแจ้งว่ายินดีให้ความร่วมมือในการนำเข้าสินค้าเกษตรจากไทย พร้อมอำนวยความสะดวกสินค้าอื่นๆ ด้วย

นายจุรินทร์กล่าวว่า ตนหยิบยก 4 ประเด็นขึ้นหารือเรื่องการค้าระหว่างไทยกับจีนเป็นการเฉพาะ ประเด็นแรก ขอให้ทางการจีนเปิดด่าน 2 ด่านที่ปิดไปในช่วงโควิด คือ 1.ด่านโมฮาน ที่เป็นด่านทางบก เริ่มต้นจากเชียงของทางเหนือของไทยผ่านบ่อเต็นไปเข้าจีนทาง ยูนนาน ตอนใต้ 2.เส้นทางผ่านแม่น้ำโขงจากท่าเรือเชียงแสนของไทยไปเข้ายูนนาน ตอนใต้ของจีนที่ด่านกวนเหล่ยหรือท่าเรือกวนเหล่ยซึ่งปิดไปเพราะโควิด อยากให้เร่งกลับมาเปิดโดยเร็ว

Advertisement

นายจุรินทร์กล่าวต่อว่า รวมทั้งเพิ่มเงื่อนไขคือ 1.สำหรับด่านกวนเหล่ย ขอให้จีนอนุญาตนำเข้าผลไม้จากไทยผ่านด่านได้ด้วย 2.การนำเข้าไก่จากประเทศไทย เรามีโรงงานส่งออกไก่ไปจีน 22 โรง แต่ปิดไป 9 โรง ช่วงโควิด ขณะนี้สถานการณ์โควิดคลี่คลายแล้ว ขอให้ท่านทูตช่วยแจ้งให้ GACC หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับศุลกากรที่มีหน้าที่มาตรวจโรงงานผลิตไก่ในไทย เพื่ออนุญาตให้นำเข้าจีนได้ต่อไป เร่งตรวจโรงงานส่งออกไก่ 9 โรงงานผ่านระบบออนไลน์ รวมทั้งขอให้จีนเพิ่มรายการนำเข้าไก่ในส่วนที่ยังไม่อนุญาต เช่น ไก่ทั้งตัวรวมหัว สะบักไก่ ข้อไก่ รวมทั้งเป็ด เป็นต้น 3.การนำเข้ารังนกจากไทย ซึ่งจีนนำเข้าจากไทยแค่ 2 บริษัท เรายังมีอีก 9 รายที่ขออนุญาตจากกระทรวงเกษตรฯอยู่ ตนขอให้จีนเร่งมาตรวจโรงงานเพิ่ม เพื่อจะได้ส่งออกรังนกไปจีนได้เพิ่มขึ้นต่อไป 4.เรื่องข้าว ซึ่งจีนกับไทยมี MoU อยู่ 1 ล้านตันที่จีนจะนำเข้าข้าว ได้นำเข้าไป 7.2 แสนตัน ค้างอยู่อีก 2.8 แสนตัน ตนรบกวนท่านทูตว่าช่วยแจ้งคอฟโก้ ซึ่งเป็นองค์กรนำเข้าข้าวจากไทย เร่งดำเนินการให้ครบถ้วนตาม MoU ต่อไป

“ผมสั่งการให้ติดตาม 5 พืชเกษตรที่รัฐบาลประกันรายได้ว่าการส่งออกเป็นอย่างไร รวมถึงผลไม้ เพื่อจัดเตรียมแผนผลักดันในปี 2565 หากมีสินค้าชนิดใดเจอปัญหาจะได้แก้ไขได้ทันท่วงที” นายจุรินทร์กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image