‘ศักดิ์ชัย’ ลั่นต้องปฏิวัติเกษตรไทย อีกเครื่องยนต์ศก. แนะดูจีนใช้เกษตรช่วยหลุดพ้นความจน
เวลา 11.00 น. วันที่ 3 พฤศจิกายน นายศักดิ์ชัย อุ่นจิตติกุล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ประธานสถาบันอุตสาหกรรมเพื่อการเกษตร สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ร่วมสัมมนา “Boost Up Thailand 2022” รูปแบบไลฟ์สตรีมมิ่งผ่านเฟซบุ๊ก ในหัวข้อเสวนา “เดินหน้า ทะลุโจทย์ประเทศ 2022” จัดโดยหนังสือพิมพ์มติชน ว่า ประเทศไทยเผชิญกับวิกฤตทางเศรษฐกิจ 3 เรื่องใหญ่ 1.สงครามการค้า สหรัฐอเมริกา-จีน ส่งผลต่อภาคอุตสาหกรรม และการเกษตรอย่างมาก 2.การดิสรัปท์จากเทคโนโลยี ต้องยอมรับว่าประเทศไทยไม่มีเทคโนโลยีเป็นของตัวเอง อุตสาหกรรมไทยที่ผ่านมาเป็นการรับจ้างการผลิต (OEM) และ 3.สถานการณ์โควิด-19
ขณะเดียวกัน การส่งออกอาหารของประเทศไทย อยู่อันดับ 13 ของโลก ในปี 2562 เคยอยู่ในอันดับ 11 ของโลก มูลค่า 1.1-1.2 ล้านล้านบาท ต้นทางของอาหารมาจากวัตถุดิบการเกษตร ทั้งนี้โอกาสในการผลักดันเศรษฐกิจของประเทศ ตอนนี้ไทยพึ่งพาการส่งออกและการท่องเที่ยวเป็นหลัก สถานการณ์โควิดเป็นโจทย์ที่ตอกย้ำให้เห็นว่า ประเทศไทยต้องกลับมามองที่เศรษฐกิจฐานราก (Local Economy) ซึ่งทั่วโลกมีการมองเหมือนกัน สิ่งสำคัญที่มีฐานมีทุนของประเทศก็คือการเกษตร
อย่างไรก็ตามที่ผ่านมา ไทยปล่อยให้มีการทำเกษตรแบบดั้งเดิมมายาวนาน สิ่งที่พบเห็นคือเกษตรกรยังยากจนอยู่ถึงทุกวันนี้ จากนี้ไปจะต้องมีการ “ปฏิวัติการเกษตร” ถ้าบอกว่าปฏิรูป เป็นการทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งทำมาตลอด แต่ไม่ตอบโจทย์สำหรับประเทศนี้ การปฏิวัติในที่นี้ หมายถึง วันนี้ต้องพลิกฝ่ามือ การเกษตรไทยมีทุนอยู่แล้ว ถ้าสามารถยกระดับการเกษตร จากเกษตรดั้งเดิมไปสู่เกษตรสมัยใหม่ หรือการเกษตรอัจฉริยะ (Smart Farming) โดยมีเป้าหมาย “เกษตรปลอดภัย” เป็นโอกาสของประเทศไทยในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ
ในยุทธศาสตร์ชาติ มีเรื่องของการเกษตรและเกษตรแปรรูป ถ้าไทยสามารถทำได้ วันนี้ไทยมีโอกาส การเกษตรจะเป็นเครื่องยนต์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ นอกจากการส่งออกและการท่องเที่ยว ที่ผ่านมาปล่อยปะละเลย ไม่ใส่ใจในเรื่องนี้ ตอนนี้มีสถาบันอุตสาหกรรมเพื่อการเกษตร ของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย นอกจากนี้ ได้มีการเสนอกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2563 ถึงเวลาประเทศไทยต้องยกระดับมุ่งสู่ เกษตรปลอดภัยให้เป็น “วาระแห่งชาติ” เป็นสิ่งที่ขับเคลื่อนอยู่ ยกตัวอย่างประเทศจีนที่เคยบอกว่าจะไม่มีคนจนในประเทศอีกแล้วในปี 2563 คำตอบของจีนคือเรื่องของการเกษตร นำเอาเกษตรเชิงท่องเที่ยวในพื้นที่ทุรกันดาร อันนี้ตอบโจทย์
“ประเทศไทยมีความพร้อม เพียงแต่ว่าต้องปรับเปลี่ยนอย่างไรถึงจะยกระดับ การปรับเปลี่ยนมีความจำเป็นอย่างยิ่งต้องบูรณาการระหว่างภาครัฐและเอกชน ต้องเอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้สักที ผมถึงต้องใช้คำแรงว่าต้องปฏิวัติการเกษตร” นายศักดิ์ชัย กล่าว
