‘คอปเปอร์ ไวร์ด’ โกยรายได้รวม 2.7 พันลบ. ดันกำไรพุ่ง 121% สวนวิกฤตโควิด

‘คอปเปอร์ ไวร์ด’ อวดงบ 9 เดือนแรก 64 โกยรายได้รวม 2.7 พันลบ. ดันกำไรพุ่ง 121% สวนวิกฤตโควิด

นายปรเมศร์ เหรียญเจริญสุข ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คอปเปอร์ ไวร์ด จำกัด (มหาชน) หรือ CPW เปิดเผยว่า ภาพรวมผลประกอบการงวด 9 เดือนแรกของปี 2564 (สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2564) บริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้รวม 2,704.41 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2562 จำนวน 690.80 ล้านบาท คิดเป็น 34.31% และมีกำไรสุทธิรวมจำนวน 35.41 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 19 ล้านบาท นับเป็นความสำเร็จในการบริหารจัดการภายในที่มีประสิทธิภาพ ภายใต้มาตรการควบคุมการระบาดโควิด-19 ของรัฐบาล และสะท้อนสินค้าเทคโนโลยี ที่เติบโตอยู่ในกระแสความต้องการของผู้บริโภค

โดยบริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการอยู่ที่ 714.20 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.48% เป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายสินค้าคอมพิวเตอร์และแท็บเล็ต โดยมีสัดส่วนรายได้จากการขายสินค้าแบรนด์ Apple เป็นจำนวน 80.73% ของรายได้และบริการสุทธิ เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2562 อยู่ที่ 72.93% ขณะที่รายได้จากการขายสินค้าดิจิทัลไลฟ์สไตล์ มีสัดส่วน 36.56% ของรายได้จากการขายและบริการสุทธิ เทียบกับงวดเดียวกันของปี 2562 อยู่ที่ 45.89% ซึ่งรายได้จากช่องทางออนไลน์มีสัดส่วน 21.18% ของรายได้จากการขายและบริการ เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อยู่ที่ 2.18% โดยบริษัทฯ จะพยายามขยายการเติบโตในช่องทางออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ เพื่อเป็นอีกช่องทางการจำหน่ายที่แข็งแกร่ง

ทั้งนี้ ผลประกอบการงวดประจำไตรมาส 3/2564 ของบริษัทฯ และบริษัทฯ ย่อย มีรายได้รวมอยู่ที่ 721.04 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 82.82 ล้านบาท คิดเป็น 12.98% และมีกําไรสุทธิ 3.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.20 ล้านบาท คิดเป็น 6.12%

นายปรเมศร์ กล่าวว่า ณ สิ้นไตรมาส 3/2564 บริษัทฯ มีร้านค้าปลีกภายใต้การบริหารงานจํานวน 46 สาขา ซึ่งสืบเนื่องจากมาตรการป้องกันโควิด-19 ของรัฐบาล ทำให้ตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคม 2563 ถึง 2 กุมภาพันธ์ 2564 บริษัทฯ ได้ปิดร้านค้าปลีกจํานวน 2 สาขา และตั้งแต่วันที่ 12 กรกฎาคม ถึง 31 สิงหาคม 2564 บริษัทฯ ได้ปิดร้านค้าปลีกจำนวน 37 สาขาเป็นการชั่วคราว แต่บริษัทฯ มั่นใจว่าเป้าหมายรายได้ในปีนี้จะเติบโตมากกว่า 20% จากเดิมที่วางไว้โต 20% หลังจากบริษัทได้รับโอนกิจการบริษัท ไอบิส พลัส เน็ทเวอร์ค จำกัด (IBIZ Plus) แล้วเสร็จเมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งจะเข้ามาสนับสนุนช่องทางการจำหน่ายของบริษัทฯ ให้แข็งแกร่งขึ้น รวมทั้งโอกาสในการเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ โดยเฉพาะช่องทางค้าส่งที่มีกลุ่มลูกค้าไม่ทับซ้อนกันกับ บริษัท โคแอน จำกัด ที่เป็นบริษัทย่อย จัดจำหน่ายสินค้าดิจิทัลไลฟ์สไตล์ให้กับร้านค้าปลีกแบรนด์ชั้นนำต่างๆ สอดรับวิสัยทัศน์การลงทุนต่อยอดในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง โดยในไตรมาส 4/2564 ถือเป็นโค้งสุดท้ายของปีเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ ซึ่งได้อานิสงส์ไอโฟน 13 และสินค้าใหม่ทยอยเปิดตัวและวางจำหน่าย สนับสนุนให้บริษัทฯ มีสินค้าไฮไลท์กลุ่ม 5จี เข้ามาเพิ่มฐานรายได้ให้แข็งแกร่งจากสาขา และผลิตภัณฑ์ที่เข้ามาเติมเต็มพอร์ต ที่ถือว่ามีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว

Advertisement

“บริษัทฯ เดินหน้าขยายพอร์ตสินค้าเทคโนโลยี ตอกย้ำการเป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีก และค้าส่งสินค้าดิจิทัลไลฟ์สไตล์รายใหญ่ของเมืองไทย หลังจากประกาศรับโอนกิจการและทรัพย์สินบางส่วนของไอบิสฯ เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยปัจจุบันบริษัทฯ ได้รับโอนกิจการและทรัพย์สินบางส่วนของไอบิสฯ เข้ามาในพอร์ตเรียบร้อยแล้ว ตามแผนการลงทุนขยายผลิตภัณฑ์ในกลุ่มโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์เสริมแบรนด์ชั้นนำอื่นๆ เพิ่มเติม อาทิ ในไตรมาส 3 ที่ผ่านมา สินค้ากลุ่ม Apple มีการเติบโตที่ดีขึ้น จากยอดขายกลุ่มคอมพิวเตอร์และแท็บเล็ต รวมทั้งกระแสการทำงานที่บ้าน หรือการเรียนการสอนผ่านออนไลน์ สนับสนุนความต้องการสินค้า และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุคใหม่มากยิ่งขึ้น รวมทั้งเป็นการขยายช่องทางการจำหน่ายที่หลากหลาย จากปัจจุบันบริษัทฯ จําหน่ายโทรศัพท์มือถือแบรนด์ Apple เพียงแบรนด์เดียว ผ่านช่องทางการจําหน่ายต่างๆ” นายปรเมศร์ กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image