ราคาน้ำมันดิบเพิ่มอีก แรงหนุนเศรษฐกิจสหรัฐฯแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น
หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บริษัท ไทยออยล์ จำกัด(มหาชน) แจ้งว่า วันที่ 9 พฤศจิกายน ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้น หลังสภาคองเกรสสหรัฐฯ ผ่านร่างกฎหมายการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานมูลค่ากว่า 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ หลังจากที่การโหวตร่างกฎหมายได้ถูกเลื่อนมาแล้วหลายครั้ง โดยการผ่านร่างกฎหมายดังกล่าวจะสามารถช่วยกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ และสนับสนุนความต้องการใช้น้ำมัน
ความต้องการใช้น้ำมันได้รับแรงหนุน หลังสหรัฐฯ เปิดพรมแดนระหว่างประเทศรับชาวต่างชาติที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบโดสแล้วเป็นวันแรก เมื่อวันที่ 8 พ.ย.64 ส่งผลให้กิจกรรมการเดินทางในประเทศปรับตัวสูงขึ้น หลังจากที่ก่อนหน้านี้สหรัฐฯ มีการจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศมามากกว่า 18 เดือน
อย่างไรก็ตาม อุปทานมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น หลังเลขานุการด้านพลังงานสหรัฐฯ กล่าวว่าสหรัฐฯ อาจพิจารณาปล่อยน้ำมันดิบจากคลังสำรองน้ำมันเชิงยุทธศาสตร์ (SPR) เพื่อผ่อนคลายราคาน้ำมันที่ยังคงในอยู่ระดับสูง หลังกลุ่มโอเปกและพันธมิตรมีมติเพิ่มกำลังการผลิตเพียง 400,000 บาร์เรลต่อวัน แม้ว่าหลายประเทศมีการเรียกร้องให้เพิ่มกำลังการผลิตมากกว่านี้
ราคาน้ำมันเบนซิน
ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปทานปรับเพิ่มจากอัตราการดำเนินโรงกลั่นในเอเชียที่ปรับตัวสูงขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งในอินเดีย ขณะที่ความต้องการใช้น้ำมันเบนซินในภูมิภาคยังคงได้รับแรงหนุนจากการผ่อนคลายมาตรการจำกัดการเดินทางในหลายประเทศ
ราคาน้ำมันดีเซล
ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ โดยได้รับแรงหนุนจากการปรับลดปริมาณการส่งออกน้ำมันดีเซลจากโรงกลั่นในประเทศจีน ขณะที่อุปสงค์ในออสเตรเลียปรับเพิ่มจากภาคอุตสาหกรรมที่กลับมาดำเนินการต่อหลังจากมีการเปิดประเทศมากขึ้น