สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย ตั้ง 43 ที่ปรึกษาร่วมพัฒนาระบบเศรษฐกิจ สังคม การศึกษา พลิกฟื้นหลังโควิด
นายแสงชัย ธีรกุลวาณิช ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย เปิดเผยว่า จากสภาวะเศรษฐกิจและการแพร่ระบาดของโควิด 19 รวมทั้ง Technology Disruption ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยทั่วประเทศ ทั้งด้านการขาดสภาพคล่อง การเข้าถึงแหล่งทุนต้นทุนต่ำ การบ่มเพาะให้องค์ความรู้ ความสร้างสรรค์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม รวมทั้งระบบที่ปรึกษาพี่เลี้ยง (ไม่ใช่พี่ใหญ่ หรือ Big brother) เพื่อช่วยเหลือพัฒนาขีดความสามารถผู้ประกอบการเอสเอ็มอีควบคู่กับการบริหารจัดการทางการเงินอย่างมีประสิทธิภาพ ขณะที่กลไก มาตรการให้ความช่วยเหลือของภาครัฐยังขาดการบูรณาการ ไม่สามารถแก้ไขปัญหาที่เรื้อรังฝังรากลึก กฎระเบียบที่ไม่เอื้อต่อ SME กฎหมายที่เหมือนจะมีแต่ SME ใช้ไม่ได้ เป็นต้น
ดังนั้น วันที่ 9 พฤศจิกายนที่ผ่านมา กรรมการบริหาร สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย มีมติแต่งตั้ง ที่ปรึกษาสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย เพื่อให้คำชี้แนะ ให้คำปรึกษา แนวทางการวางยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนลดความเหลื่อมล้ำของเอสเอ็มอีไทย ทั้งด้านการศึกษา เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อมและสิทธิมนุษยชน
4 เหลื่อมล้ำที่เอสเอ็มอีไทยต้องเผชิญ
1. GDP SME มีสัดส่วนเพียง 34% แต่มีจำนวนผู้ประกอบการและแรงงานรวมมากกว่า 15 ล้านคน ต้องเร่งการขยายสัดส่วนให้เกิดการเติบโตของ GDP SME มากกว่า 50%
2. สัดส่วนการส่งออก SME มีเพียง 13% ขณะที่จำนวน SME ที่อยู่ภาคการส่งออกมีเพียงไม่ถึง 1% หรือ 27,000 รายจาก SME ทั้งหมดของประเทศกว่า 3.1 ล้านราย
3. การเพิ่มขีดความสามารถ Scale up SME ให้เพิ่มทั้งมูลค่าผลิตภัณฑ์และบริการ ด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม (วทน) เพื่อสร้าง SME ที่ขับเคลื่อนด้วยฐานองค์ความรู้นวัตกรรม แบบทำได้ดี ขายได้จริง
4. การผลักดันปฏิรูประบบราชการอย่างจริงจังให้เกิดการเอื้อต่อเอสเอ็มอีในการดำเนินธุรกิจ และปรับปรุงกฎระเบียบ กฎหมายที่อุปสรรคโดยคำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนรวม และความยั่งยืนของประเทศเป็นหลัก
สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทยเรามุ่งมั่นต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจ และสังคมที่เป็นรูปธรรม สร้างปัญญาให้เป็นอาวุธขับเคลื่อนเอสเอ็มอีไทย ด้วยการรวมพลังทุกภาคส่วนที่เป็นคลังสมอง นักบริหาร นักวิชาการ นักสื่อสารมวลชน ศิลปินแห่งชาติ และนักธุรกิจจิตอาสาชั้นนำแถวหน้าของประเทศไทยก่อเกิดการพัฒนาสร้างเศรษฐกิจฐานรากอย่างเข้มแข็ง
ทั้งนี้ การประกาศแต่งตั้งที่ปรึกษาสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย 43 ท่าน มีผลตั้งแต่ 11 พฤศจิกายน 2564 และจะเป็นการทำงานเพื่อเศรษฐกิจชาติในรูปแบบ เพื่อนช่วยเพื่อน ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ให้เกิดการสร้างเอสเอ็มอี 4 อยู่คู่ชาติ คือ อยู่รอด อยู่เป็น อยู่เย็น และอยู่ยาว