| ผู้เขียน | ศศวัชร์ คมนียวนิช |
|---|
จอดป้ายประชาชื่น : อลวนปาล์มแพง
ตอนนี้ราคาน้ำมันปาล์มทั้งในประเทศและต่างประเทศเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 10 ปี ส่งผลให้ทั้งราคาน้ำมันปาล์มบรรจุขวด และน้ำมันผสมไบโอดีเซล ปรับราคาสูงขึ้นมามาก จนผู้บริโภคร้องโอดครวญ วอนรัฐบาลเร่งแก้ปัญหา
ราคาปาล์มทะลายตอนนี้สูงถึง กก.ละ 9-9.80 บาท สอดคล้องกับราคาน้ำมันปาล์มดิบตลาดโลกสูงขึ้นถึง 43.08 บาทต่อลิตร ราคาน้ำมันปาล์มบรรจุขวด 55-60 บาท
สาเหตุหลักมาจากปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ “ลานิญา” ทำให้ประเทศผู้ปลูกหลักอย่างมาเลเซียและอินโดนีเซียมีผลผลิตออกมาน้อย ประกอบกับการขาดแรงงานเก็บเกี่ยวผลผลิตจากสถานการณ์โควิด ส่งผลให้ราคาน้ำมันปาล์มดิบทั่วโลกขยับขึ้น
เมื่อมาดูโครงสร้างราคาน้ำมันไบโอดีเซลในประเทศไทย ชนิด B100 สูงถึง 47.11 บาทต่อลิตร ส่วนราคาน้ำมันไบโอดีเซลหน้าโรงกลั่นที่ยังไม่ได้เก็บภาษีต่างๆ ชนิด B7 ราคา 21.25 บาทต่อลิตร B10 ราคา 21.92 บาทต่อลิตร และ B20 ราคา 24.69 บาทต่อลิตร
แสดงให้เห็นว่าราคาน้ำมันดีเซลที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำมันปาล์ม ราคาจะอยู่ประมาณ 20 บาทต่อลิตร ซึ่งราคาต่ำกว่าน้ำมันไบโอดีเซล B100 กว่า 2.3 เท่า ทำให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมีการชดเชยราคาให้ต่ำลง ชนิด B7 ช่วย 1.99 บาทต่อลิตร B10 ช่วย 2.56 บาทต่อลิตร และ B20 ราคา 4.8 บาทต่อลิตร คำถามคือ เป็นการอุ้มถูกจุดหรือไม่
ก่อนหน้านี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน “สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์” ได้ประกาศปรับสูตรน้ำมันไบโอดีเซลลงเหลือ B6 เพื่อให้ราคาน้ำมันดีเซลในตลาดลดลง แต่ได้รับการคัดค้านจากสมาคมปาล์มต่างๆ อย่างหนัก
เป็นเรื่องน่าสงสัยว่าราคาน้ำมันปาล์มดิบตลาดโลกราคาดีขนาดนี้ทำไมไม่ผลักดันส่งออกในช่วงนี้ก่อน หรือเพิ่มปริมาณผลิตน้ำมันบรรจุขวดใช้ในครัวเรือน ให้ราคาน้ำมันปาล์มบรรจุขวดทรงตัว ไม่ใช่ให้สต๊อกน้ำมันปาล์มดิบไปกองกับน้ำมันไบโอดีเซล จนปริมาณบริโภคในประเทศขาดแคลน เกิดการกักตุน เหมือนช่วงปี 2554 ที่มีน้ำมันฝาสีฟ้า ฝาสีชมพู สารพัดสี ประชาชนไม่อยากให้เกิดภาพซ้ำแบบนี้อีก
เป็นโจทย์ใหญ่ของรัฐบาลที่ควรแก้ปัญหาให้ตรงจุดอย่างเร่งด่วน!!
ศศวัชร์ คมนียวนิช
