“สุพัฒนพงษ์”เร่งกู้เงิน2หมื่นล้านเสริมกองทุนน้ำมันฯ เหตุเงินกองทุนอุ้มได้แค่สิ้นปีเท่านั้น จ่อฟื้นช็อปดีมีคืนรีบปีใหม่ รับห่วงโควิดจับตาลอยกระทงหวั่นกระทบปีใหม่
นายสุพัฒนพงษ์ พันธุ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมาตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยระหว่างลงพื้นที่ร่วมประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 1/2564 ณ จังหวัดกระบี่ วันที่ 15-16 พฤศจิกายน ว่า ขณะนี้กระทรวงพลังงานกำลังเร่งดำเนินการเรื่องการขอกู้ยืมเงินเพิ่มเติมภายใต้ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2562 จำนวน 20,000 ล้านบาท เพื่อนำเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอย่างเร็วที่สุด เนื่องจากสถานะของกองทุนน้ำมันฯล่าสุดมีเงินเหลืออยู่ไม่มาก สามารถตรึงราคาน้ำมันดีเซลให้ไม่เกิน 30 บาทต่อลิตรได้จนถึงสิ้นปี 2564 เท่านั้น
ขณะเดียวกันกระทรวงพลังงานยังติดตามสถานการณ์แนวโน้มราคาน้ำมันในตลาดโลกอย่างใกล้ชิด มองว่าน่าจะอ่อนตัวลงได้ เนื่องจากหากผู้ผลิตน้ำมันขึ้นราคาเร็วเกินไป จะส่งผลทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกช้าลง ภาวะเงินเฟ้อจะปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ของโลกก็ยังไม่สู้ดีนัก การปรับขึ้นราคาดังกล่าวจะไม่เป็นประโยชน์กับผู้ใดเลย
นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า ส่วนกรณีข้อเรียกร้องของภาคเอกขนที่ต้องการให้รัฐบาลนำโครงการช็อปดีมีคืนกลับมาใช้อีกครั้งหนึ่งเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงปลายปีนี้นั้น รัฐบาลกำลังพิจารณา เนื่องจากโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ยังไม่เห็นผลมากตามที่คาดหวัง อาจนำโครงการช็อปดีมีคืนมาใช้ในปี 2565 เพื่อให้เกิดการต่อเนื่องกับโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ที่จะสิ้นสุดลงภายในสิ้นปี 2564 ขณะนี้ได้มอบหมายให้กระทรวงการคลังศึกษาความเป็นไปได้
นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า อย่างไรก็ตามกำลังจับตาเทศกาลลอยกระทง วันที่ 19 พฤศจิกายนนี้ ว่ามาตรการของรัฐ เอกชน และประชาชน จะสามารถควบคุมการแพร่ของโควิดได้ดีหรือไม่ เพื่อให้ต่อเนื่องไปยังเทศกาลปีใหม่ที่กำลังจะถึง คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในประเทศเป็นจำนวนมาก และมีการใช้จ่ายเงินเป็นจำนวนมากในหลายภาคส่วนทั้งค่าที่พัก อาหาร ค่าเดินทาง อย่างไรก็ตาม ล่าสุดสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ได้ประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2564 ทั้งปีคาดจะขยายตัว 1.2% ตามกรอบบนที่คาดไว้เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ส่วนปี 2565 คาดอัตราเติบโตที่ 4%
