“ถนนพระราม2”หรือทางหลวงหมายเลข35 (ธนบุรี-ปากท่อ) ถนนสายหลัก รองรับการเดินทางฝั่งธนบุรีกับฝั่งพระนครและมุ่งสู่พื้นที่ภาคใต้ ในแต่ละวันจะปริมาณจราจรกว่า 1 แสนคัน
หลังได้ชื่อว่าเป็น”ถนนเจ็ดชั่วโคตร” เพราะไม่เคยหยุด”ซ่อม-สร้าง”จนเกิดปัญหาการจราจรตามมาอย่างยาวนาน
ในอีกไม่ปีข้างหน้า น่าจะปิดฉากภาพจำเหล่านี้
หลัง 2 เมกะโปรเจ็กต์ ทางด่วนสายพระราม3-ดาวคะนอง-วงแหวนตะวันตกและทางยกระดับลอยฟ้าบางขุนเทียน-เอกชัย-บ้านแพ้ว จะอัพเกรดเป็นมอเตอร์เวย์ในอนาคตแล้วเสร็จ
เพราะถนนพระราม2 จะมีทั้งถนนทางราบที่ใช้ฟรีและมีทางด่วนและมอเตอร์เวย์อยู่ข้างบนเป็นทางเก็บค่าผ่านทาง เป็นทางเลือกให้คนเดินทาง เหมือนกับ”ถนนบางนา-ตราด “มีทางด่วนบูรพาวิถีอยู่ข้างด้านบน จะช่วยบรรเทาการจราจรได้ไม่มากก็น้อย
ปีหน้าตอกเข็มถึง”บ้านแพ้ว”
นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง กล่าวว่า ทางยกระดับบางขุนเทียน-บ้านแพ้ว ระยะทางประมาณ 26.9 กิโลเมตรจะพัฒนาเป็นมอเตอร์เวย์ แบ่งการก่อสร้างออกเป็น 2 ช่วง ขณะนี้อยู่ระหว่างก่อสร้างช่วงบางขุนเทียน-เอกชัย ระยะทาง 11 กิโลเมตร ใช้งบประมาณ 10,500 ล้านบาท
ทั้ง 3 สัญญา จะแล้วเสร็จตามแผนในเดือนสิงหาคม 2565 ผลงาน ณ เดือนตุลาคม ตอน 1 คืบหน้า 50.81 % ช้ากว่าแผน 11.56% ตอน 2 คืบหน้า 40.398 %
เร็วกว่าแผน 1.289 % ตอน 3 คืบหน้า 67.061 %
เร็วกว่าแผน 6.726%
ในเดือนธันวาคมนี้ จะเริ่มก่อสร้างช่วงจากเอกชัย-บ้านแพ้ว ระยะทาง 16.4 กิโลเมตร หลังเซ็นสัญญากับผู้รับเหมาทั้ง 10 สัญญา มีค่าก่อสร้าง 18,759 ล้านบาท ลดลง 940 ล้านบาท จากกรอบที่ตั้งไว้ 19,700 ล้านบาท จะใช้เงินจากกองทุนมอเตอร์เวย์มาดำเนินการ
ระดมรับเหมาสร้าง 10 ตอนเสร็จปี’67
ทั้ง 10 สัญญา ได้แก่ ตอน 1 ระยะทาง 2.179 กิโลเมตร ค่าก่อสร้าง 1,757.6 ล้านบาท บจก.อุดมศักดิ์เชียงใหม่ เป็นผู้เสนอราคาต่ำสุด, ตอน 2 ระยะทาง 2.196 กิโลเมตร ค่าก่อสร้าง 1,861.8 ล้านบาท กิจการร่วมค้ากรุงธน-ไทย(กรุงธนฯ+ไทย เอนยิเนียร์) เป็นผู้เสนอราคาต่ำสุด ,ตอน 3 ระยะทาง 1.064 กิโลเมตร ค่าก่อสร้าง 1,910.3 ล้านบาท กิจการร่วมค้าวีเอ็น (วิจิตรภัณฑ์+นภาก่อสร้าง)เป็นผู้เสนอราคาต่ำสุด, ตอน 4 ระยะทาง 1.264 กิโลเมตร ค่าก่อสร้าง 1,876.3 ล้านบาท บจก.กรุงธนเอนยิเนียร์ เป็นผู้เสนอราคาต่ำสุด, ตอน 5 ระยะทาง 1.666 กิโลเมตร ค่าก่อสร้าง 1,903.9 ล้านบาท บจก.บางแสนมหานคร เป็นผู้เสนอราคาต่ำสุด
ตอน 6 ระยะทาง 1.108 กิโลเมตร ค่าก่อสร้าง 1,865 ล้านบาท กิจการร่วมค้ายูเอ็น-เอเอสไอ(ยูนิคฯ+อสิตากิจ) เป็นผู้เสนอราคาต่ำสุด, ตอน 7 ระยะทาง 1.435 กิโลเมตร ค่าก่อสร้าง 1,868.3 ล้านบาท บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวลีอปเมนต์ เป็นผู้เสนอราคาต่ำสุด , ตอน 8 ระยะทาง 2.159 กิโลเมตร ค่าก่อสร้าง 1,910 ล้านบาท กิจการร่วมค้าซีซีเอสพี-เดอะซีอีซี(ซีวิลฯ+เดอะซีอีซี) เป็นผู้เสนอราคาต่ำสุด ,ตอน 9 ระยะทาง 2.145 กิโลเมตร ค่าก่อสร้าง 1,859.87 ล้านบาท กิจการร่วมค้าซีเอ็มซี-ทีบีทีซี (เชียงใหม่คอนสตรัคชั่น+ร่วมค้าทีบีทีซี) เป็นผู้เสนอราคาต่ำสุดและตอน 10 ระยะทาง 1.134 กิโลเมตร ค่าก่อสร้าง 1,946.085 ล้านบาท กิจการร่วมค้าเอส.เค. (เสริมสงวน+เค.อาร์.ซีฯ) เป็นผู้เสนอราคาต่ำสุด
โดยรูปแบบก่อสร้างเป็นทางยกระดับ ขนาด 6 ช่องจราจรไป-กลับ มีจุดเริ่มต้นเชื่อมต่อกับโครงการระยะที่ 1 ช่วงบางขุนเทียน-เอกชัย บริเวณ กม.20+295 ในอ.เมืองสมุทรสาคร และสิ้นสุดบริเวณ กม.36+645 ในอ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร มีแผนดำเนินงานก่อสร้างในช่วงปี 2564-2567 และงานติดตั้งระบบในปี 2566-2567 คาดว่าจะเริ่มเปิดให้บริการเต็มรูปแบบในต้นปี 2568
กทพ.เร่งทางด่วนพระราม 3 เปิดปี’67
ฝั่งการทางพิเศษแห่งประเทศไทย(กทพ.) เร่งมือก่อสร้างทางด่วนสายพระราม 3 – ดาวคะนอง – วงแหวนรอบนอกตะวันตก ระยะทาง 18.7 กิโลเมตรใช้เงินก่อสร้างร่วม 3 หมื่นล้านบาท ให้เปิดได้ภายในปี 2567 เชื่อมการเดินทางกับทางยกระดับพระราม2 แบบไร้รอยต่อ
จาก 5 สัญญา ปัจจุบันกทพ.เปิดไซต์ได้แล้ว 2 สัญญา ได้แก่ สัญญาที่ 2 เป็นทางยกระดับขนาด 6 ช่องจราจร มีจุดเริ่มต้นที่ กม.6+600 ถึงทางแยกต่างระดับดาวคะนอง ระยะทาง 5.3 กิโลเมตร มีกิจการร่วมค้าซีทีบี ( ไชน่า ฮาร์เบอร์ฯ+ ทิพากร +บุรีรัมย์ธงชัยก่อสร้าง)ก่อสร้าง คืบหน้าแล้ว 22.52% เสร็จเดือนกรกฎาคม 2566
และสัญญาที่ 4 ก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ขนาด 8 ช่องจราจร ระยะทางรวม 2 กิโลเมตร มีบมจ.ช.การช่างเป็นผู้ก่อสร้าง คืบหน้าแล้ว 53.53% ตามสัญญาจะเสร็จเดือนมีนาคม 2566
อีก 3 สัญญา เพิ่งเซ็นสัญญา โดยสัญญาที่1 เป็นทางยกระดับขนาด 6 ช่องจราจร มีจุดเริ่มต้นที่ กม. 13+000 ของถนนพระรามที่ 2 ถึง กม. 6+600 ของถนนพระรามที่ 2 ระยะทางรวม 6.4 กิโลเมตร มีกิจการร่วมค้า ยูเอ็น-ซีซี (บมจ.ยูนิคฯ และบจ. ซีวิล คอนสตรัคชั่นฯ) ก่อสร้างวงเงิน 7,359 ล้านบาท
สัญญาที่ 3 สร้างทางยกระดับขนาด 6 ช่องจราจรคร่อมตามแนวทางพิเศษเฉลิมมหานครช่วงดาวคะนอง-สุขสวัสดิ์-ราษฎร์บูรณะ ระยะรวม 5 กิโลเมตร มีกิจการร่วมค้า ไอทีดี-วีซีบี(บมจ.อิตาเลียนไทยฯ และ บจ.วิจิตรภัณฑ์ก่อสร้าง) ก่อสร้างวงเงิน 7,358.3 ล้านบาท
และสัญญาที่ 5 งานระบบจัดเก็บค่าผ่านทาง อยู่ระหว่างเตรียมการประมูล เนื่องจากได้ปรับปรุงร่างทีโออาร์ให้ระบบจัดเก็บค่าผ่านทางเป็นระบบแบบไม่มีไม้กั้น (M-Flow) ตามนโยบายของกระทรวงคมนาคม
จากการที่งานก่อสร้างเริ่มไม่พร้อมกัน ล่าสุด กทพ.ปรับแผนให้เสร็จใกล้เคียงกันในทุกสัญญา คาดว่าพร้อมเปิดบริการปลายปี 2567 ขณะเดียวกันกทพ. มีแนวทางในการลดผลกระทบ จากกรณีที่แต่ละสัญญาก่อสร้างแล้วเสร็จไม่เท่ากัน อาจพิจารณาเปิดให้บริการโครงการเป็นบางส่วนก่อน
เมื่อโครงการก่อสร้างทั้งหมดแล้วเสร็จ จะช่วยให้การจราจรของกรุงเทพฯ ที่มุ่งสู่ภาคใต้ของประเทศไทย มีความคล่องตัวขึ้น และเป็นการปิดมหากาพย์ถนนเจ็ดชั่วโคตรพระราม2 ได้อย่างแท้จริง
เปิดค่าผ่านทางแต่ละโครงการ
สำหรับค่าผ่านทางของมอเตอร์เวย์บางขุนเทียน-บ้านแพ้ว รถ 4 ล้อ ค่าแรกเข้า 10 บาท จากนั้นคิดตามระยะทางที่ใช้จริง 2 บาทต่อกิโลเมตร รถ 6 ล้อ ค่าแรกเข้า 16 บาท จากนั้นตามระยะทางที่ใช้จริง 3.20 บาทต่อกิโลเมตร และรถ 6 ล้อขึ้นไป ค่าแรกเข้า 23 บาท จากนั้นคิดตามระยะทางที่ใช้จริง 4.60 บาทต่อกิโลเมตร
ส่วนทางด่วนพระราม 3 -ดาวคะนอง-วงแหวนตะวันตก ยังไม่ชัดเจน แต่ตามที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติโครงการ รถ 4 ล้อ เก็บ 30 บาท, รถ 6 ล้อ-10 ล้อ อัตรา 60 บาท, รถมากกว่า 10 ล้อขึ้นไป อัตรา 90 บาท
หากใช้บริการตลอดสายตั้งแต่ พระราม3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอก จะเสียค่าผ่านทางรวม 60 บาทสำหรับรถ 4 ล้อ เป็นต้น โดยจะมีการปรับขึ้นค่าผ่านทางทุก 5 ปี ในอัตรา 5 บาท
โดยทั้งมอเตอร์เวย์และทางด่วนสายใหม่นี้จะใช้ระบบเก็บค่าผ่านทางแบบไม่มีไม้กั้น หรือM-Flow ด้วย ก็จะทำให้การเดินทางของทั้ง 2 ระบบเชื่อมกันแบบไร้รอยต่อ