ททท.ผุด ‘นิว ทัวริสซึ่ม อีโคซิสเต็ม’ พลิกโฉมท่องเที่ยว ดึงรายได้ 1.5 ล้านล้านบาทปี 65

‘ททท.’ ลุยพลิกโฉมท่องเที่ยวไทย ผ่าน ‘นิว ทัวริสซึ่ม อีโคซิสเต็ม’ ย้ำเป้าปี 65 ดึงรายได้คืน 1.5 ลลบ.

เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ภาคการท่องเที่ยวไทยมีความจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนแปลง ซึ่งไม่ใช่การปรับเปลี่ยนรองรับแค่วันนี้หรือพรุ่งนี้เท่านั้น แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงเพื่อรองรับอนาคตในช่วง 5 – 10 ปีข้างหน้า หากมองว่าการท่องเที่ยวยังมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจต่อไป โดยไม่ใช่เพียงการสร้างเพื่อยกระดับให้ซัพพลายเชนดีขึ้น หรือการพัฒนาการให้บริการที่ดีขึ้น เพราะความจริงภาคการบริการของไทยดีอยู่แล้ว ซึ่งภายใต้นโยบายของนายกฯ ททท.มีแนวคิดในการสร้างนิว ทัวริสซึ่ม อีโคซิสเต็ม ขึ้นมาให้ได้ โดยต้องอยู่บนพื้นฐานการนำเทคโนโลยีและดิจิทัลเข้ามาปรับเปลี่ยนใหม่ อาทิ การทำตลาดที่เดิมเน้นมองแต่แหล่งท่องเที่ยว ต้องเปลี่ยนมาเป็นการเน้นมองที่นักท่องเที่ยวหรือลูกค้ามากขึ้น เข้าใจพฤติกรรมและรู้ข้อมูลมากขึ้น รวมถึงจากเดิมเน้นเรื่องจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่ต้องดึงเข้ามาให้จำนวนมากไว้ก่อน แต่ต่อไปต้องเน้นเรื่องคุณภาพ และการสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้นักท่องเที่ยวเพิ่มเติม รวมถึงต้องสร้างความร่วมมือระหว่างกันมากขึ้น ไม่สามารถต่างคนต่างอยู่ได้เหมือนเดิมแล้ว โดยจะต้องสร้างจุดมุ่งหมายเดียวกัน เพื่อให้ภาคการท่องเที่ยวไทยมุ่งสู่การท่องเที่ยวแบบยั่งยืน ซึ่งถือเป็นการพลิกโฉมท่องเที่ยวไทย สู่นิว ทัวริสซึ่ม อีโคซิสเต็ม

“ต้นทุนที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลง เราต้องเรียนรู้จากโควิด-19 และวิกฤตที่เกิดขึ้น ไม่อย่างนั้นก็กลับไปเป็นเหมือนเดิมอีก เนื่องจากหากย้อนกลับไปในอดีตท่องเที่ยวไทยมีปัญหาเรื่องโอเวอร์ทัวริสซึ่ม มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามามากๆ และเกิดปัญหาส่งผลกระทบกับสิ่งแวดล้อม แม้ประเทศไทยจะถือเป็นประเทศที่สามารถสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวติด 5 อันดับแรกของโลกก็ตาม ซึ่งสิ่งที่ต้องพิจารณาคือ แล้วความยั่งยืนจะสามารถไปด้วยกันได้หรือไม่ เมื่อเรามีขนาดของความเสียหาย ที่เป็นต้นทุนนำไปสู่การเปลี่ยนแปลง โดยนายกฯ มีนโยบายในการพลิกโฉมประเทศไทยทุกมิติ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และททท. ก็รับนโยบาย วางแผนในการพลิกโฉมท่องเที่ยวไทย อย่างน้อยที่สุดก็ต้องไม่กลับไปเป็นเหมือนเดิม เรียนรู้จากสิ่งที่เกิดขึ้น ขณะเดียวกันก็ต้องก้าวไปข้างหน้าให้ได้” นายยุทธศักดิ์ กล่าว

VIDEO CONTENT AVERTISEMENT

นายยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลเร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ต้องยอมรับว่าการเปลี่ยนแปลงในด้านดิจิทัล มีผลให้เกิดขบวนการเปลี่ยนแปลง ที่พิจารณาจากตัวบุคคลคือ ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา หากคนไม่รู้จะทำอะไรในวันหยุดก็ออกไปเดินห้างสรรพสินค้า แต่ขณะนี้สามารถเลือกชมสินค้าผ่านแอพพลิเคชั่นต่างๆ ในโทรศัพท์มือถือได้แล้ว พฤติกรรมจึงเปลี่ยนแปลงไป ภาคการท่องเที่ยวไทยต้องตอบโจทย์เรื่องเหล่านี้ให้ได้ โดยททท.ได้ตั้งเป้าหมายในการดึงรายได้ของภาคการท่องเที่ยวไทยในปี 2565 กลับมาที่ 50% หรือประมาณ 1.5 ล้านล้านบาท เทียบจากทั้งปี 2562 ก่อนเกิดการระบาดโควิดอยู่ที่ 3 ล้านล้านบาท ส่วนปี 2566 ดึงกลับมา 70% หรือประมาณ 2.4 ล้านล้านบาท แต่จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติต้องลดลงเหลือ 50% ของปี 2562 ที่เข้ามาเกือบ 40 ล้านคน แต่มูลค่าการใช้จ่ายจะต้องเพิ่มมากขึ้น โดย 4 กลุ่มเป้าหมายนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่ต้องการดึงเข้ามา ได้แก่ 1.นิวเวลธ์ หรือผู้ถือสกุลเงินใหม่ๆ 2.กลุ่มผู้สูงอายุ หรือวัยเกษียณอายุแล้ว 3.ดิจิทัล นอแมด หรือผู้ที่สร้างรายได้ผ่านการทำธุรกิจออนไลน์ และ 4.กลุ่มผู้มีความเชี่ยวชาญหรือความสามารถพิเศษต่างๆ ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้มีความต้องการเข้ามาท่องเที่ยวไทยสูงมาก

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image