วันที่ 28 พฤศจิกายน นายประภาศ คงเอียด อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า เพื่อเป็นไปตามกฎหมาย กรมจะประกาศบัญชีราคาประเมินที่ดินใหม่ในเร็วๆนี้ แต่จะให้มีผลบังคับใช้วันที่ 1 มกราคม 2566 พร้อมกันทั่วประเทศ เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจยังไม่ดี และสถานการณ์โควิดยังมีปัญหาต่อเนื่อง ไม่รู้จะสิ้นสุดเมื่อไหร่ คณะกรรมการประเมินราคาทรัพย์สินเพื่อประโยชน์ของรัฐ จึงให้ใช้อัตราบัญชีเดิมรอบปี 2559-2562 ไปก่อน เพื่อลดภาระประชาชนผู้เสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างและค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนองอสังหาริมทรัพย์
“บัญชีราคามีผลบังคับใช้ 4 ปี ตั้งแต่ปี 2566-2569 โดยราคาใหม่ได้มีการรีวิวใหม่แล้ว โดยภาพรวมทั้งประเทศราคาปรับเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 8% สูงสุดยังเป็นพื้นที่เดิมเป็นทำเลทองกลางเมือง “
อธิบดีกรมธนารักษ์กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ผลจากชะลอการบังคับใช้ราคาประเมินใหม่ออกไป ส่งผลกระทบต่อการเก็บค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมของท้องถิ่นจะจัดเก็บได้น้อยลง แต่มองว่าการชะลอออกไปจะส่งผลดีต่อประชาชนที่ยังประสบกับปัญหาโควิดอยู่มากกว่า
นายฐนัญพงษ์ สุขสมศักดิ์ ผู้อำนวยการกองประเมินราคาทรัพย์สิน กรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า ประมาณต้นเดือนธันวาคมนี้จะประกาศบัญชีราคาประเมินใหม่รอบปี 2566-2569 เป็นการประกาศตามกฎหมาย แต่บังคับใช้จริงวันที่ 1 มกราคม 2566 โดยภาพรวมทั่วประเทศราคาปรับขึ้นเฉลี่ย 8% ในพื้นที่กรุงเทพฯประมาณ 3%และต่างจังหวัดประมาณ 8% ส่วนใหญ่ราคาจะคล้ายกับราคาที่เตรียมจะประกาศใช้เมื่อปี 2563 มีทั้งปรับขึ้น เท่าเดิม และลดลงเล็กน้อย
สำหรับราคาสูงสุดยังอยู่พื้นที่กรุงเทพฯ ราคา 1 ล้านบาท/ตารางวา ได้แก่ ถนนสีลม เพลินจิต วิทยุ พระรามที่ 1 รองลงมาถนนสุขุมวิท 750,000 บาท/ตารางวา ถนนกรุงธนบุรี ถนนรัชดาภิเษก 450,000 บาท/ตารางวา ถนนเพชรบุรี 300,000 บาท/ตารางวา ถนนพหลโยธิน 250,000 บาท/ตารางวา