ธ.ก.ส. จัด ‘โครงการ 1 สาขา สร้างอาชีพสู้วิกฤติโควิด’ ตั้งเป้าหนุนสินเชื่อส่งเสริมอาชีพ

ธ.ก.ส. จัด ‘โครงการ 1 สาขา สร้างอาชีพสู้วิกฤติโควิด’ ตั้งเป้า หนุนสินเชื่อส่งเสริมอาชีพและรายได้ ให้เกษตรกร แรงงานคืนถิ่น และบัณฑิตจบใหม่จำนวนกว่า 6 หมื่นราย

นายสมเกียรติ กิมาวหา รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) และการเกิดภัยธรรมชาติ ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคม ทั้งด้านรายได้ที่ลดลงจากปัญหาการเลิกจ้างงาน ผลผลิตการเกษตรที่ได้รับความเสียหาย รวมถึงผลกระทบจากราคาผลผลิตตกต่ำ เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการก้าวข้ามวิกฤต ธ.ก.ส.จึง ได้ดำเนิน “โครงการ 1 สาขา สร้างอาชีพสู้วิกฤติโควิด-19” โดยให้ ธ.ก.ส.ทุกสาขาทั่วประเทศกว่า 1,200 สาขา ค้นหาเกษตรกรลูกค้า บุคคลในครัวเรือนเกษตรกรลูกค้า ผู้ที่ลงทะเบียนขอสินเชื่อโควิด-19 แรงงานคืนถิ่น บัณฑิตจบใหม่ที่ยังว่างงานและสนใจที่จะนำความรู้มาพัฒนาภาคการเกษตร รวมถึงกลุ่มบุคคล กลุ่มวิสาหกิจชุมชน กลุ่มเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการเพิ่มศักยภาพลูกค้าเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ เป็นต้น เพื่อเข้าร่วมการพัฒนา ฟื้นฟู และสร้างอาชีพใหม่ๆ โดยให้มีการส่งเสริมอาชีพอย่างน้อย 1 อาชีพต่อ 1 สาขา เป้าหมายผู้เข้าร่วมโครงการจำนวน 10,000 ราย ภายในปี 2564 และอีก 50,000 ราย ในปี 2565

นายสมเกียรติกล่าวว่า สำหรับการดำเนินงานแบ่งเป็น 2 ส่วน ประกอบด้วย การสนับสนุนการพึ่งตนเอง ซึ่งผู้ที่เข้าร่วมโครงการจะได้เรียนรู้ผ่านระบบ การเรียนอิเล็กทรอนิกส์ (E-Learning) หรือแหล่งเรียนรู้ เช่น ชุมชนต้นแบบฯ / ศูนย์เรียนรู้ฯ กลุ่มวิสาหกิจชุมชน เกษตรกรต้นแบบที่ประสบความสำเร็จ เป็นต้น

โดยนำองค์ความรู้ทักษะ มาเป็นแนวทางปรับเปลี่ยนการดำรงชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและทฤษฎีใหม่ เพื่อให้สามารถพึ่งพาตนเอง และพึ่งพาซึ่งกันและกันในการต่อยอดการรวมกลุ่มพัฒนาอาชีพ สร้างกิจกรรมทางธุรกิจ โดยผู้เข้าร่วมโครงการจะได้ร่วมจัดทำแผนชีวิต หรือแผนครัวเรือน และกำหนดตัวชี้วัดความสำเร็จ เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหารระดับครัวเรือน เช่น โครงการ 459 โครงการเกษตรกรรมยั่งยืน เป็นต้น

Advertisement

นายสมเกียรติกล่าวว่า การสนับสนุนการสร้างอาชีพ โดยยึดหลักการรวมกลุ่มและการมีส่วนร่วมของสมาชิก การจัดทำแผนพัฒนาของกลุ่ม (แผนอาชีพ หรือแผนธุรกิจ) พร้อมกำหนดตัวชี้วัดความสำเร็จ จากนั้นต่อยอดการพัฒนาสู่โครงการอื่นๆ อาทิ โครงการธุรกิจชุมชนสร้างไทย โครงการเตรียมความพร้อมเกษตรกรให้เป็น สมาร์ท ฟาร์มเมอร์ โครงการสนับสนุนชุมชนสร้างมูลค่าเพิ่มจากไม้ตลอดห่วงโซ่การผลิต การปลูกพืชทางเลือกใหม่ เป็นต้น โดยการพัฒนาเสริมทักษะ ด้านการผลิต การจัดการตลาด การสร้างกิจกรรมทางธุรกิจ (การผลิต การแปรรูป การรวบรวม การบริการ) และการประสานภาคีเครือข่ายในการสนับสนุนองค์ความรู้ ปัจจัยการผลิต เครื่องจักร และเทคโนโลยี

 

นายสมเกียรติกล่าวว่า นอกจากนี้ ยังเตรียมพร้อมในการพัฒนาช่องทางการตลาดออนไลน์ ที่เชื่อมโยงไปสู่ตลาด โซเชียลคอมเมิร์ซและตลาดออฟไลน์ รองรับการจำหน่ายผลผลิตทั้งภายในและภายนอกชุมชน เช่น ตลาดนัดของดีวิถีชุมชน ส่วนงานราชการ เรือนจำ โรงพยาบาล โรงเรียน โรงแรม สถานีบริการน้ำมัน PTTOR เป็นต้น รวมถึงการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนหรือค่าลงทุน อาทิ สินเชื่อร่วมกลุ่ม สินเชื่อสู้ภัยโควิด สินเชื่อธุรกิจชุมชนสร้างไทย สินเชื่อสานฝันสร้างอาชีพ สินเชื่อนวัตกรรมดีมีเงินทุน เป็นต้น

“โครงการดังกล่าว นอกจากมุ่งช่วยเหลือเกษตรกรรายย่อย กลุ่มผู้เปราะบางที่ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐให้มีความมั่นคงทางอาหาร สามารถพึ่งพาตนเองและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นเป็นลำดับแรกแล้ว ยังมุ่งหวังที่จะต่อยอดในการสร้างอาชีพให้กับแรงงานคืนถิ่น บัณฑิตจบใหม่ที่มีประสบการณ์ มีความรู้ด้านเทคโนโลยี มาร่วมพัฒนาภาคการเกษตร ทดแทนกลุ่มเกษตรกรที่มีอายุมาก เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ” นายสมเกียรติกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image