ทีเอ็มบีห่วงจีดีพีไทยโตกระจุกตัว เตือนตามติดเลือกตั้งผู้นำสหรัฐฯ ส่งผลค่าบาทผันผวน

นายนริศ สถาผลเดชา ผู้อำนวยการอาวุโส ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ธนาคารทหารไทย (ทีเอ็มบีอนาไลติกส์) เปิดเผยว่า แนวโน้มเศรษฐกิจไทยช่วงที่เหลือของปีนี้คาดว่าจะฟื้นตัวต่อเนื่อง ทางศูนย์วิเคราะห์ฯจึงปรับเพิ่มประมาณการณ์ใหม่ จาก 2.8% เป็น 3.3% โดยแรงขับเคลื่อนจากการลงทุนภาครัฐขยายตัว 12.5% ท่องเที่ยวขยายตัว 11.3% การบริโภคภาคเอกชนขยายตัว 2.6% ยกเว้นการลงทุนเอกชนขยายตัวเล็กน้อย 0.9% และส่งออกติดลบ 1.8% ขณะที่ผลกระทบจากมาตรการปราบปราบทัวร์ศูนย์เหรียญ คาดกระทบจำนวนนักท่องเที่ยวจีนลดประมาณ 5 แสนคน ถือว่าไม่มากนัก เมื่อเทียบคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจีนมาไทยถึง 9 ล้านคน รวมถึงตลาดท่องเที่ยวจากอาเซียน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และยุโรป เริ่มฟื้นตัวกลับมาแล้ว ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมขณะนี้ มองว่าเป็นผลตามฤดูกาลไม่น่าจะส่งผลกระทบมากนัก

สำหรับทิศทางเศรษฐกิจไทยปี 2560 มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องที่ 3.5% จากโครงการลงทุนภาครัฐ ภาคการท่องเที่ยว การบริโภคภาคเอกชน มีแนวโน้มดีต่อเนื่อง และการลงทุนภาคเอกชนมีแนวโน้มสูงขึ้น ภาคการส่งออกมีแนวโน้มพลิกกลับมาขยายตัวบวก 2.3% ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจคู่ค้า โดยเฉพาะตลาดอาเซียน ซีแอลเอ็มวี และสหรัฐ ส่วนตลาดยุโรป จีน และญี่ปุ่น ยังชะลอตัวอยู่

“ จีดีพีปีนี้ขยายตัว 3.3% ถือว่ายังไม่น่าพอใจ เพราะการเติบโตกระจุกตัวในภาคการก่อสร้าง ที่ได้รับอานิสงส์จากการลงทุนภาครัฐ ท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร รวมแล้วคิดเป็นสัดส่วนเพียง 25% ของจีดีพี ระยะต่อไปอัตราการเติบโตจะชะลอลง ถือว่าฐานไม่กว้างและเป็นการเติบโตที่ไม่มีคุณภาพ ซึ่งการลงทุนเอกชนต้องเกิด เพราะเป็นสัดส่วนกว่า 50% ของจีดีพี ที่ผ่านมาการลงทุนหายไปจากภาคการผลิตที่ยังใช้กำลังการผลิตต่ำกว่า70% ”

นายนริศ กล่าวว่า ภาพรวมการขยายตัวสินเชื่อของภาคธนาคารพาณิชย์ปีนี้ จะขยายตัว 3.3% โดยอัตราขยายตัวไม่สูงมากนัก เนื่องจากส่วนหนึ่งหันไประดมทุนผ่านตลาดทุน หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(เอ็นพีแอล) ยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น คาดสิ้นปี2559 อยู่ที่ 2.76% และถึงจุดสูงสุดในไตรมาส 2/2560 ที่ 2.96% อย่างไรก็ดี คุณภาพสินเชื่อมีแนวโน้มดีขึ้นครึ่งปีหลัง 2560 และคาดสินเชื่อปี 2560 ขยายตัว 6.3%

Advertisement

นายจิติพล พฤกษเมธานันท์ รองผู้อำนวยการ ทีเอ็มบีอนาไลติกส์ กล่าวว่า แนวโน้มเศรษฐกิจโลกปี 2560 จะขยายตัว 3.5% ปัจจัยหนุนจากเศรษฐกิจจีนและสหรัฐฯเติบโต ขณะที่สหภาพยุโรปและญี่ปุ่นยังชะลอตัว ปัจจัยเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม ได้แก่ ระดับหนี้ต่อจีดีพีของจีนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ต้องติดตามการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ รวมถึงต้องติดตามผลกระทบจากการลงประชามติเบร็กซิท รวมทั้งปัญหาการเมืองในภูมิภาค

” ทิศทางค่าเงินบาท ปี 2560 หากฮิลลารี คลินตัน ชนะเป็นประธานาธิบดีสหรัฐ ตลาดการเงินจะยังเปิดรับความเสี่ยง ทำให้มีเงินไหลเข้าในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ รวมทั้งไทย คาดค่าเงินบาทอยู่ 34.80 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐในปลายปี และอยู่ที่ 34.00 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯกลางปี 2560 แต่หากโดนัล ทรัมป์ ชนะมีความเสี่ยงเกิดความผันผวนสูงในตลาดการเงิน เงินบาทจะอ่อนค่า ปีนี้อยู่ที่ 35.30 บาท และกลางปีหน้าอยู่ที่ 36.00 บาท ส่วนการปรับดอกเบี้ยเชิงนโยบายไทยคาดว่าจะปรับเป็น 1.75% จาก 1.5% ครึ่งหลังปีหน้า “

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image