ททท. รับเป้านักท่องเที่ยว น้อยกว่า 6 แสน ชี้ระบาดรอบใหม่ยุโรป-โอไมครอน ทำยอดตก

ททท. รับเป้านักท่องเที่ยว น้อยกว่า 6 แสน ชี้ระบาดรอบใหม่ยุโรป-โอไมครอน ทำยอดตก

เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า จากที่ ททท. ตั้งเป้าหมายนักท่องเที่ยวต่างชาติ จำนวน 6 แสนคน ในเดือน พฤศจิกายน-ธันวาคม 2564 มาจากการอิงตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 2562 ที่เข้ามาเดือนละ 3 ล้านคน โดยตั้งเป้าหมายไว้จำนวน 10% ก็คือ 3 แสนคนต่อเดือน ซึ่งเป็นเป้าหมายของการทำงาน

อย่างไรก็ตาม ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ ในทวีปยุโรป ซึ่งเป็นตลาดหลักนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเข้ามาในประเทศไทย เกิดการชะลอการเดินทางการเข้ามา โดยเฉพาะประเทศอังกฤษ เยอรมนี ฝรั่งเศส ทั้งนี้นักท่องเที่ยวไม่ได้กลัวการมาเที่ยวประเทศไทย แต่เขากลัวว่าเมื่อประเทศของเขามีการระบาดกันมากจะเกิดการล็อกดาวน์ แล้วเขาจะกลับเข้าประเทศไม่ได้ ประกอบกับการแพร่ระบาดสายพันธุ์โอไมครอนที่เริ่มมีการกระจายตัวไปทั่วโลก เป้าหมายที่ตั้งไว้ 6 แสนคน อาจจะเป็นไปไม่ได้

ตั้งแต่เดือน มกราคม-ตุลาคม 2564 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาแล้วประมาณ 1 แสนคน โดยมาจากโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ประมาณ 7 หมื่นคน เดือนพฤศจิกายนประมาณ 1.3 แสนคน แต่เมื่อมองตัวเลขในเดือนธันวาคมมีนักท่องเที่ยวที่ขอเข้าประเทศผ่านช่องทาง Thailand Pass มาแล้วเกือบ 4 แสนคน แต่มีความมั่นใจว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาจริงไม่ต่ำกว่า 3 แสนคน

นายยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ปัญหาการแพร่ระบาดสายพันธุ์โอไมครอน ทำให้มีการชะลอการเดินทางท่องเที่ยว เพราะนักท่องเที่ยวจะมีปัญหาตอนเดินทางกลับเข้าประเทศตนเอง เป็นการเพิ่มภาระ ตอนนี้ข้อมูลสายพันธุ์โอไมครอน ยังไม่มีข้อมูลออกมาชัดเจนว่าความรุนแรงของโรคมากน้อยแค่ไหน แต่มีความกังวลว่าจะมีการออกมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดแบบครอบจักรวาล ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อการท่องเที่ยวในช่วงไฮซีซั่นนี้ด้วย

Advertisement

“ตอนนี้การเข้าประเทศมีความเข้มงวดขึ้น ให้มีการตรวจเชื้อโควิด-19 แบบ RT-PCR แทนการตรวจแบบ ATK ที่สามารถตรวจเชื้อสายพันธุ์โอไมครอนได้อย่างแน่นอน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับคนในประเทศ ถ้ามีการพบผู้ติดเชื้อก็เป็นเรื่องที่ทางสาธารณสุขจะมีการตัดสินใจว่าจำอย่างไร อย่างไรก็ดีนโยบายของท่านนายกรัฐมนตรียืนยันเดินหน้าเปิดประเทศต่อไป” นายยุทธศักดิ์ กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image