ผู้เขียน | วิณัฐฏาภรณ์ ศิริโสม |
---|
หลังเกิดการระบาดโควิด-19 เราเห็นหลายอย่างเปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะตลาดการเงินและการลงทุน เนื่องจากเดิมหากเกิดวิกฤตใดขึ้น เราจะเห็นสินทรัพย์ปลอดภัย อย่างทองคำ ได้รับความสนใจและมีความต้องการซื้อ จนดันราคาพุ่งทะยานขึ้นและไม่ยอมปรับลงมาง่ายๆ แต่โควิดทำให้เห็นราคาทองคำผันผวนปรับขึ้นลงรุนแรง ไม่แตกต่างจากสินทรัพย์เสี่ยง ทั้งหุ้นพันธบัตรรัฐบาล และอสังหาริมทรัพย์ ทำให้นักลงทุนมองหาสินทรัพย์ใหม่ ในการรักษาเม็ดเงินในกระเป๋า ไม่ให้มูลค่าลดน้อยลงสกุลเงินดิจิทัล (คริปโทเคอร์เรนซี) จึงได้รับความนิยมสูงมาก
ส่งผลให้ สินทรัพย์ดิจิทัล (ดิจิทัล แอสเซท) ถือเป็นอีเวนต์ใหม่ ที่ความสนใจต่างหลั่งไหลเข้าไปหา ทำให้หลายส่วนตื่นตัวรับเทรนด์การลงทุน รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของตลาดการเงินมากขึ้น โดยเฉพาะภาคเอกชน ที่วางแผนในการโดดลงมาเป็นผู้เล่น
แต่ดูเหมือนการเดินหน้าสู่อนาคตโลกการเงินดิจิทัลในฝัน จะสะดุดลง หลังจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประกาศว่าที่ผ่านมา ธปท.ได้มีการแจ้งเตือนเป็นระยะ และขอย้ำว่า ธปท.ไม่สนับสนุนการนำสินทรัพย์ดิจิทัลมาใช้ชำระค่าสินค้าและบริการ เพราะราคาสินทรัพย์ดิจิทัลมีความผันผวนสูง รวมถึงมีความเสี่ยงจากการถูกโจรกรรมทางไซเบอร์ ข้อมูลส่วนบุคคลรั่วไหลหรือการถูกใช้เป็นเครื่องมือของการฟอกเงิน ในอนาคตอาจส่งผลต่อเสถียรภาพของระบบการชำระเงิน เสถียรภาพระบบการเงินของประเทศ และความเสียหายแก่สาธารณชนทั่วไปได้
แต่หากพิจารณาภาพในปัจจุบัน แม้คนส่วนใหญ่ใช้เงินสดในการชำระสินค้าและบริการแบบปกติ แต่ยังเห็นข้อมูลส่วนบุคคลรั่วไหล เงินในบัญชีถูกโอนออกจากบัญชี หรือพบการทำธุรกรรมทางการเงิน ทั้งที่เจ้าของบัญชีไม่รู้ตัว
คำถามคือ โลกปัจจุบันและโลกอนาคต ความปลอดภัยของตลาดการเงินเสถียรภาพระบบการเงินของประเทศ อยู่ตรงไหน