ส.อ.ท. เผย ดัชนีอุตสาหกรรม พ.ย.64 ปรับตัวสูงสุดในรอบ 8 เดือน

ส.อ.ท. เผย ดัชนีอุตสาหกรรม พ.ย.64 ปรับตัวสูงสุดในรอบ 8 เดือน ค่าดัชนีปรับเพิ่มขึ้นทุกกลุ่ม 45 อุตสาหกรรม รอ กกร. เคาะ ประมาณการจีดีพีปี 65 พรุ่งนี้

เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2564 นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือนพฤศจิกายน 2564 อยู่ที่ระดับ 85.4 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับ 82.1 ในเดือนตุลาคม 2564 โดยค่าดัชนีฯ ปรับตัวเพิ่มเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน และปรับตัวสูงสุดในรอบ 8 เดือน นับตั้งแต่ เดือนเมษายน 2564 สำหรับดัชนีฯ คาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้าปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 97.3 จากระดับ 95.0 ในเดือนตุลาคม 2564 ปรับตัวสูงสุดในรอบ 21 เดือน ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศที่มีแนวโน้มคลี่คลายลง การฉีดวัคซีนมีความคืบหน้าอย่างชัดเจน และการลดความเข้มงวดของมาตรการควบคุม ซึ่งส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง นอกจากนี้ค่าดัชนี 45 กลุ่มอุตสาหกรรมส.อ.ท.ปรับเพิ่มขึ้นหมดและทุกประเภทอุตสาหกรรมทั้งเล็ก กลาง ใหญ่ สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการที่ดี

นายสุพันธุ์ กล่าวว่า ส่วนกรณีที่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ โอมิครอน 1 รายนั้น ช่วงแรกอาจทำให้คนวิตกกังวัลไปบ้าง แต่รัฐบาลยังคงมาตรการดูแลเข้มงวด รวมถึงจากผลการวิเคราะห์เชื้อสายพันธุ์ก็ไม่มีความรุนแรง ดังนั้นภาพรวมจึงไม่กระทบต่อความเชื่อมั่นอุตสาหกรรมมากนัก แต่ต้องไม่ประมาท ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันรักษามาตรการควบคุมอย่างเคร่งครัดเพื่อไม่ให้เกิดการล็อกดาวน์หรือเคอร์ฟิวอีก และรัฐบาลควรเตรียมพร้อม มีมาตรการรองรับกรณีการระบาดรอบใหม่ รวมถึงการคัดกรองนักท่องเที่ยวอย่างเข้มงวด

Advertisement

นายสุพันธุ์ กล่าวว่า ทั้งนี้ในวันที่ 8 ธันวาคมนี้จะมีการประชุมคณะกรรมการภาคเอกชน 3 สถาบัน(กกร.) ที่ประกอบด้วยส.อ.ท. สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย โดยมีการประเมินทิศทางเศรษฐกิจไทยปี 2565 และมีการประเมินเรื่องของการระบาดของโอมิครอนร่วมด้วย ขณะที่เศรษฐกิจไทยปี 2564 ยังคงคาดการณ์ว่าจะขยายตัวที่ 0.5-1.5% ตามที่ กกร.เคยเสนอไว้ ส่วนการส่งออกน่าจะขยายตัวได้ดีกว่า 12.0-14.0% อย่างไรก็ตามในรอการประเมินอีกครั้ง

นายศุภรัตน์ ศิริสุวรรณางกูร รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ส่วนข้อเสนอแนะต่อภาครัฐ 1.เร่งฉีดวัคซีนเข็ม 2 ให้เร็วที่สุด รวมถึงการฉีดเข็ม 3 (บูสเตอร์) ที่สามารถในการยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอน ตลอดจนเข้มงวดมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันการระบาดระลอกใหม่ 2.เร่งจัดหาและนำเข้าแรงงานต่างด้าวภายใต้การลงนาม (เอ็มโอยู) เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาขาดแคลนแรงงานในภาคอุตสาหกรรม รวมทั้งแก้ไขปัญหาการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายตามแนวชายแดน

3.ขอให้ภาครัฐออกมาตรการช่วยเหลือ และบรรเทาผลกระทบจากต้นทุนการผลิตที่ปรับตัวสูงขึ้น อาทิ พยุงราคาพลังงานตรึงราคาค่าไฟฟ้า และลดค่าสาธารณูปโภค (ไฟฟ้า,น้ำประปา) 4.เร่งออกมาตรการช่วยเหลือและกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งผ่อนคลายกิจกรรมทางเศรษฐกิจภายใต้มาตรการควบคุมโรค ในช่วงเทศกาลปีใหม่ เพื่อช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจ และ 5. สนับสนุนสินค้า Made in Thailand ผ่านการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐและเอกชนมากขึ้น

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image