‘เอ็นที’ จับมือ ‘ซุปเปอร์ แนป’ ยกระดับ ‘ดาต้าเซ็นเตอร์-คลาวด์’ ระดับเทียร์ 3 ในไทย

‘เอ็นที’ จับมือ ‘ซุปเปอร์ แนป’ ยกระดับ ‘ดาต้าเซ็นเตอร์-คลาวด์’ ระดับเทียร์ 3 ในไทย

เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม น.อ.สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ รักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือเอ็นที เปิดเผยว่า เอ็นทีได้ลงนามความร่วมมือ (เอ็มโอยู) เป็นเวลา 3 ปี กับบริษัท ซุปเปอร์แนป (ประเทศไทย) ผู้ให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์ สัญชาติสหรัฐอเมริกา มาตรฐานเทียร์ 4 ในการให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์ ร่วมกัน สำหรับลูกค้าของทั้งสองบริษัท หากลูกค้าเอ็นทีต้องการดาต้า เซ็นเตอร์ สำรอง ที่มีมาตรฐานระดับเทียร์ 4 เอ็นทีก็จะมีข้อเสนอหรือทางเลือกเพิ่มเติมให้ลูกค้าใช้ของซุปเปอร์แนป ขณะที่ลูกค้าซุปเปอร์แนปเองก็สามารถมาใช้ดาต้า เซ็นเตอร์ของเอ็นทีเพื่อเป็นดาต้าสำรองได้

สำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ ของเอ็นทีมีอยู่ 13 แห่ง ทั่วประเทศ แต่อยู่ในระดับ เทียร์ 3 ซึ่งเอ็นทีมีดาต้าเซ็นเตอร์ระดับเทียร์ 3 ดังนั้นหากมีลูกค้า เช่น ธนาคาร หรือ ลูกค้าต่างชาติ สนใจใช้ดาต้าเซ็นเตอร์ ระดับเทียร์ 4 ด้วยเอ็นทีก็จะมีทางเลือกเพิ่มเติมให้ลูกค้า ขณะที่ ซุปเปอร์ แนปเอง มีดาต้าเซ็นเตอร์ เพียง 1 แห่ง ที่ จ.ชลบุรี ก็สามารถเสนอดาต้า เซ็นเตอร์ สำรองของเอ็นทีให้ลูกค้าด้วย จึงเป็นการช่วยลดต้นทุนในการสร้างดาต้า เซ็นเตอร์ แห่งใหม่ของทั้ง 2 บริษัทด้วย

ปัจจุบันเอ็นทีมีลูกค้าที่ใช้คลาวด์ตามโครงการคลาวด์ภาครัฐ 700 หน่วยงาน จำนวน 23,000 วีเอ็ม จำนวน 3,000 ระบบ และลูกค้าเอกชนอีก จำนวน 300 บริษัท จำนวน 500 วีเอ็ม และเริ่มมีบริษัทต่างชาติติดต่อเข้ามาเพื่อขอใช้บริการดาต้า เซ็นเตอร์ เทียร์ 4 แล้ว เช่น อเมซอน กูเกิ้ล จึงทำให้เกิดความร่วมมือกับ ซุปเปอร์แนป ดังกล่าว

Advertisement

ด้าน นางสุนิตา บ๊อตเซ่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ซุปเปอร์ แนป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ซุปเปอร์แนป (ประเทศไทย) ได้รับการออกแบบโมดูลาร์และปรับขนาดได้ด้วยการขยายศูนย์ข้อมูลเพิ่มเติมอีก 2 อาคาร ที่สามารถให้บริการพลังงานถึง 60 เมกะวัตต์และพื้นที่สำหรับมากกว่า 5,000 ตู้ รวมถึงการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ โดยเชื่อมต่อผ่านเครือข่ายไฟเบอร์จากผู้ให้บริการโครงข่ายหลายรายหลายเส้นทาง และสามารถรับประกันประสิทธิภาพสำหรับการเชื่อมต่อเครือข่ายที่สูงสุดในแต่ละสถานการณ์อีกด้วย

นอกจากนี้ ศูนย์ข้อมูลซุปเปอร์ แนป (ประเทศไทย) ยังมีนวัตกรรมเทคโนโลยีด้านพลังงานและระบบควบคุมอุณหภูมิ ที่ช่วยให้บริษัทเป็นศูนย์ข้อมูลที่ทันสมัยที่สุด พร้อมรองรับการใช้พลังงานความหนาแน่นสูงถึง 33 กิโลวัตต์ต่อตู้ และมีค่าเฉลี่ยประสิทธิภาพการใช้พลังงาน (PUE) ต่อปีที่ 1.35-1.45 ซึ่งเป็นระดับที่มีประสิทธิภาพมากกว่าศูนย์ข้อมูลอื่นๆ ในอาเซียน ด้วยคุณสมบัตินี้ผู้ใช้บริการยังจะมีส่วนช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และบรรลุเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมด้วยการเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนระดับโลกสู่พลังงานสะอาด

Advertisement

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image