6 ทศวรรษ‘ไทยออยล์’ มุ่งองค์กร 100 ปี

6 ทศวรรษ‘ไทยออยล์’ มุ่งองค์กร 100 ปี

ก้าวย่างสู่ปีที่ 60 สำหรับ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ผู้นำธุรกิจด้านการกลั่นน้ำมันปิโตรเลียมรายใหญ่สุดในประเทศไทย และมีประสิทธิภาพสูงสุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

บริษัท ไทยออยล์ ยังมีวิสัยทัศน์ในการสร้างสรรค์คุณภาพชีวิตด้วยพลังงานและเคมีภัณฑ์ที่ยั่งยืน ภายใต้กรอบการดำเนินงานที่ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล หรือ ESG (Environmental/Social/Governance) เพื่อสร้างสรรค์คุณภาพชีวิตที่ยั่งยืนคู่คนไทย ถือเป็นบริษัทต้นแบบในการอยู่ร่วมกันระหว่างภาคธุรกิจ ภาคอุตสาหกรรม และชุมชน

วิรัตน์ เอื้อนฤมิตŽ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ฉายภาพอนาคตไทยออยล์ ว่า จะขับเคลื่อนไทยออยล์ ให้เป็นองค์กร 100 ปี บริษัทแรกในกลุ่ม ปตท. ด้าน ESG จะผลักดันให้แข็งแกร่งและยั่งยืน สร้างการเจริญเติบโตทางธุรกิจ สร้างผลตอบแทนให้ผู้ถือหุ้นอย่างดี และบริษัทต้องได้รับการยอมรับและการสนับสนุนจากผู้มีส่วนใดส่วนเสียทุกภาคส่วน ปัจจุบันอายุไทยออยล์ เทียบเท่ากับช่วงวัยกลางคน ในด้านธุรกิจเอง จึงถือว่าเข้าสูงช่วงที่บริษัทต้องปรับตัวเพื่อตอบสนองความท้าทายต่างๆ

ADVERTISMENT

เริ่มตั้งแต่เรื่องการเผชิญกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 กว่า 2 ปี กระทบธุรกิจน้ำมัน ที่ผ่านมาการเดินทางด้วยอากาศยานไม่สามารถทำได้เต็มที่ ส่งผลให้รายได้

ไทยออยล์หายไป แต่เชื่อว่าที่สุดแล้วโควิด-19 จะผ่านไป เพราะสถานการณ์ปรับตัวดีขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้ เมกะเทรนด์ที่ท้าทาย คือ หลายธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับไทยออยล์อยากหันไปใช้พลังงานสะอาดมากขึ้น นอกจากนี้จากการประชุมภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ครั้งที่ 26 (COP26) ทำให้ไทยออยล์ต้องปรับตัว ล่าสุดบริษัทมีแผนสร้างความเติบโตจากพื้นฐานความแข็งแกร่งของธุรกิจโรงกลั่น ขยายธุรกิจไปยังธุรกิจปิโตรเคมี และขยายตลาดไปให้ไกลกว่าตลาดภายในประเทศ มุ่งเป้าตลาดใหม่ในภูมิภาค

ADVERTISMENT

โดยไทยออยล์จะขับเคลื่อนด้วยกลยุทธ์หลัก 3 ด้าน (3V) คือ 1.Value Maximization การต่อยอดห่วงโซ่คุณค่าจากธุรกิจโรงกลั่นสู่ธุรกิจปิโตรเคมี 2.Value Enhancement การขยายตลาด ขยายกำลังการผลิต และขยายผลิตภัณฑ์ไปสู่ตลาดต่างประเทศในระดับภูมิภาค เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันและตอบสนองกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายมากขึ้น และ 3.Value Diversification การขยายสู่ธุรกิจอื่น รวมถึงธุรกิจใหม่ช่วยต่อยอดกำไรให้มีเสถียรภาพ ซึ่งในปัจจุบันเรามีการลงทุนในธุรกิจไฟฟ้า แต่ในอนาคตจะมีการลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ เพิ่มเติมเข้ามาต่อไป

ทั้งนี้ ในอนาคตไทยออยล์จะมุ่งมั่นขยายสู่ธุรกิจที่สร้างรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืน ไปพร้อมกับการดูแลสิ่งแวดล้อมและรับผิดชอบต่อสังคมอย่างต่อเนื่อง ด้วยแนวคิด ESG ที่ประกอบไปด้วย 3E

คือ 1.Enhance Environment การตอบสนองต่อทิศทางของโลกในเรื่องการลดก๊าซเรือนกระจก โดยไทยออยล์มีเป้าหมาย เรื่องการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ หรือ Net Zero ในปี 2060 และคาดว่าภายใน 1-2 ปีนี้ บริษัทจะมีรายได้จากธุรกิจสีเขียวเพิ่มขึ้นประมาณ 25% หลักๆ รายได้จะมาจากไอโอดีเซล ไบโอเอทานอล และไบโอเจ็ท เป็นต้น

2.Engage Society มุ่งเน้นสร้างประโยชน์ต่อชุมชน สังคม ให้เป็นรูปธรรม ผ่านโครงการส่งเสริมความรับผิดชอบต่อสังคม โดยมีคีย์หลักคือพลังงานและเคมีภัณฑ์ที่ยั่งยืน ซึ่งเรื่องนี้เป็นวิสัยทัศน์หลักของไทยออยล์ที่จะสร้างประโยชน์ต่อชุมชนและสังคม

และ 3.Ensure Good Governance ให้ความสำคัญกับเรื่องระบบการจัดการที่มีประสิทธิภาพ โปร่งใส ตรวจสอบได้ ภายใต้หลักธรรมาภิบาล เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของบริษัท ซึ่งทั้ง 3V และ 3E นี้เป็นแนวคิดหลักที่ไทยออยล์ จะนำมาปฏิบัติ เพื่อบริหารจัดการความ ยั่งยืนของธุรกิจต่อไป

อย่างไรก็ดี วิโรจน์ มีนะพันธ์Ž รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ด้านกำกับองค์กร และกิจการสัมพันธ์ ไทยออยล์ ให้ข้อมูลว่า ปีที่ 60 ของไทยออยล์ บริษัทได้เตรียมจัดกิจกรรมและโครงการในวาระครบรอบ เบื้องต้นจะจัดโครงการสวน 60 ปี ไทย

ออยล์ (Thaioil Eco Park) มีแนวคิดสร้างสวนสาธารณะแห่งใหม่ พื้นที่ 6 ไร่ เพื่อประโยชน์ต่อประชาชนพื้นที่แหลมฉบังให้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ ดำเนินการกิจกรรมต่างๆ จุดเด่นโครงการนี้ อาทิ นำแนวคิดระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนมาใช้ สร้างพื้นที่สีเขียวแบบประยุกต์โดยการนำองค์ความรู้ด้าน Nature-based Solution มาใช้เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีของชุมชนเมือง

นอกจากนี้ บริษัทยังดำเนินโครงการด้านสังคมอย่างต่อเนื่อง อาทิ ด้านการศึกษา ให้ทุนการศึกษาเพื่อพัฒนาเยาวชนดีเด่นในพื้นที่ หรือการจัดค่ายอบรมความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ และภาษาอังกฤษ เป็นต้น ด้านสุขภาพและสาธารณสุข สร้างศูนย์สุขภาพและการเรียนรู้กลุ่มไทยออยล์เพื่อชุมชน จัดทำโครงการชุมชนน่าอยู่ ส่งเสริมกิจกรรมสุขภาพ รวมทั้งจัดให้มีเครื่องเล่นและอุปกรณ์ออกกำลังกายสำหรับชุมชน จัดคลินิกทันตกรรม สร้างอาคารอุบัติเหตุและฉุกเฉิน 5 ชั้น ให้กับโรงพยาบาลแหลมฉบัง ด้านการดูแลสิ่งแวดล้อม อาทิ การสร้างพื้นที่สีเขียว การปลูกป่าชายเลน นอกจากนี้ บริษัทยังมีเป้าหมายเพิ่มพื้นที่สีเขียว อยากทำให้เห็นว่าอุตสาหกรรมขนาดใหญ่กับธรรมชาติ และการอนุรักษ์ชุมชน สามารถพึ่งพาอาศัยกันได้ ไม่จำเป็นว่าการทำธุรกิจจะต้องทำลายสิ่งแวดล้อมเพียงอย่างเดียว

ส่วนเป้าหมายในช่วง 5-10 ปีนี้ บริษัทตั้งใจลดคาร์บอนให้ได้ 25% กลุ่ม ปตท. มีแผนร่วมกันศึกษา โดยอาศัยความรู้และความเชี่ยวชาญของแต่ละกลุ่มบริษัทในเครือมาร่วมกันดำเนินการ ในส่วนของไทยออยล์ได้ตั้งเป็นคาร์บอนนิวทรัล ปี 2050 และปี 2060 จะเป็น Net zero ขณะนี้เริ่มมีการจ้างที่ปรึกษามากำหนดและวางแผนเป้าหมายการลดคาร์บอน และเพิ่มพื้นที่สีเขียวในแต่ละปี เพื่อเตรียมตัวเข้าสู่การเป็น Net zero ตามที่บริษัทได้ตั้งเป้าหมายไว้เรียบร้อยแล้ว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image