‘จุรินทร์’ กล่อมสหรัฐ ถอดไทยจากบัญชี WL และเสนอฟื้นประชุมทิฟ่า
เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม ที่กระทรวงพาณิชย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังนายไมเคิล ฮีธ อุปทูตรักษาการเอกอัครราชทูตสหรัฐ ประจำประเทศไทย เข้าพบว่า เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทย ชื่นชมประเทศไทยและกระทรวงพาณิชย์ ในการดูแลห่วงโซ่การผลิตและเศรษฐกิจช่วงที่ผ่านมา ให้สามารถดำเนินการได้ดี มีความต่อเนื่องแม้เผชิญกับสถานการณ์โควิด โดยสหรัฐพร้อมสนับสนุน BCG โมเดล (Bio-Circular-Green Economy Model) ของไทย ซึ่งไทยจะหยิบยกเป็นประเด็นช่วงการประชุมเอเปคที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพ พร้อมกันนี้ สหรัฐขอบคุณไทย ที่ช่วยสนับสนุนการพัฒนาและการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาออนไลน์ และแจ้งข่าวดีว่าสหรัฐอนุญาตให้ส้มโอจากไทยสามารถส่งออกไปสหรัฐได้แล้ว ตั้งแต่วันที่ 10 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
นายจุรินทร์กล่าวต่อว่า สำหรับเรื่อง BCG โมเดล รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐที่จะพบนายกรัฐมนตรีของไทย จะหยิบประเด็นนี้ขึ้นหารือและเดินทางไปดูเรือเฟอร์รี่ไฟฟ้าของไทยในแม่น้ำเจ้าพระยา อีกทั้งสหรัฐให้ความสำคัญกับการลงทุนผลิตยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ว่ายังมีหลายยี่ห้อที่จะลงทุนในประเทศไทยในอนาคต และช่วงก่อนหน้านี้บริษัทฟอร์ดเข้ามาลงทุนในไทยแล้ว 950 ล้านเหรียญสหรัฐ ประมาณ 30,000 ล้านบาท
นายจุรินทร์กล่าวต่อว่า ได้หยิบยก 3 ประเด็นในการหารือกับทูตสหรัฐ คือ 1.ประเทศไทยให้ความสำคัญกับการเดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจแบบผสมผสาน โดยเฉพาะการใช้ BCG โมเดลและประเทศไทยจะชู BCG โมเดล ในการประชุมเอเปค ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพในปี 2565 2.เรื่องทรัพย์สินทางปัญญา ประเทศไทยยังจับมือกับสำนักผู้แทนการค้าแห่งสหรัฐอเมริกา หรือ USTR ขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการด้านทรัพย์สินทางปัญญาร่วมกันและพัฒนาทรัพย์สินทางปัญญา ทั้งการปกป้องและการบังคับใช้กฎหมายในการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งสหรัฐมองเห็นเรื่องนี้โดยได้ปลดประเทศไทยจากบัญชีต้องจับตามองเป็นพิเศษ (PWL) เป็นบัญชีจับตามอง (WL) โดยขอให้ทูตสหรัฐไปถ่ายทอดถึง USTR ให้ปลดประเทศไทยจากบัญชี WL ต่อไป ซึ่งตามขั้นตอนสหรัฐจะมีการทบทวนรายประเทศประจำปีในเร็วๆ นี้ และ 3.ร่วมกันสนับสนุนการค้าการลงทุนระหว่างไทยและสหรัฐ เช่น จัดประชุมกรอบความตกลงทางการค้าการลงทุนระหว่างไทยสหรัฐ (TIFA) ซึ่งไทยเป็นเจ้าภาพประชุมไปเมื่อ 2 ปีก่อน โดยเสนอให้สหรัฐเป็นเจ้าภาพการประชุมในปี 2565
ทั้งนี้ มูลค่าการค้าระหว่างไทยกับสหรัฐ เฉลี่ยปีละ 50,000 ล้านเหรียญ เป็นคู่ค้าลำดับ 3 รองจากจีนและญี่ปุ่น โดย 10 เดือนแรก 2564 ไทยส่งออกไปสหรัฐ 34,137 ล้านเหรียญ เพิ่มขึ้น 20.05% หรือคิดเป็นเงินไทย 1.066 ล้านล้านบาท โดยไทยได้ดุลการค้า 22,270 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็น 691,247 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43.36%