นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ขณะนี้โครงการมาตรการการเงินการคลังเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ระยะเร่งด่วน ผ่านโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟท์โลน) เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนให้แก่ผู้ประกอบการ เอสเอ็มอี ระยะที่ 2 วงเงิน 50,000 ล้านบาท ให้สถาบันการเงินนำไปปล่อยสินเชื่อต่อแก่ผู้ประกอบการ เอสเอ็มอี ในอัตราดอกเบี้ย 4% ต่อปี ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม 2559 นั้น ธนาคารออมสิน ได้ดำเนินการปล่อยกู้ในวงเงิน 50,000 ล้านบาท เต็มวงเงินแล้ว เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยเงินจำนวนนี้ ทำให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีรายย่อย 9,700 ราย ได้รับความช่วยเหลือ คิดเป็นวงเงินเฉลี่ยต่อรายประมาณ 5.1 ล้านบาท
นายชาติชาย กล่าวว่า โครงการระยะแรก เมื่อปลายปี 2558 มีผู้ประกอบการ 11,750 ราย ได้เข้าถึงแหล่งเงินทุนโครงการวงเงิน 100,000 ล้านบาท ถือว่าโครงการนี้ ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี และมาถึงโครงการระยะที่ 2 เพียงไม่ถึง 1 เดือน วงเงิน 50,000 ล้านบาท ก็หมดลง ซึ่งธนาคารออมสินยินดีและมีความภูมิใจที่ได้ช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ประสบภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว และช่วยสร้างความเข้มแข็งในการดำเนินธุรกิจ ให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนผ่านกลไกของธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ และธนาคารพาณิชย์ ที่มาร่วมผนึกกำลังเป็นแหล่งทุนสนับสนุนธุรกิจเอสเอ็มอีครั้งนี้
สำหรับสถาบันการเงิน 20 แห่ง ที่เข้าโครงการและได้เบิกใช้วงเงิน ได้แก่ 1. ธนาคารกรุงเทพ 12,800 ล้านบาท 2. ธนาคารไทยพาณิชย์ 7,600 ล้านบาท 3.ธนาคารกรุงไทย 6,400 ล้านบาท 4. ธนาคารกสิกรไทย 6,100 ล้านบาท 5. ธนาคารออมสิน 4,100 ล้านบาท 6. ธนาคารเพื่อการพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) 3,600 ล้านบาท และสถาบันการเงินอื่นๆ อีกรวมกว่า 9,000 ล้านบาท
นายชาติชาย กล่าวว่า สำหรับโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำฯ วงเงิน 50,000 ล้านบาท มีระยะเวลาดำเนินการ 7 ปี โดยเป็นการปล่อยกู้ให้แก่สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐและธนาคารพาณิชย์ ในอัตราดอกเบี้ย 0.1% ต่อปี เพื่อนำปล่อยกู้โดยตรงให้กับผู้ประกอบการในอัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 4% ต่อปี โดยระยะ 2 มีเงื่อนไขที่แตกต่างจากโครงการระยะแรก เพียงแค่เงื่อนไขเดียว คือ จำกัดวงเงินสินเชื่อต่อรายไว้ไม่เกิน 10 ล้านบาท จากโครงการแรกกำหนดไว้ไม่เกิน 50 ล้านบาท