ม.หอการค้า ชี้ ระงับเทสต์แอนด์ โก ช่วยลดระบาดโอมิครอน แนะไม่ควรล็อกดาวน์หวั่นกระทบเศรษฐกิจพัง
นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดสายพันธุ์ “โอมิครอน” ยอมรับว่าทั้งโลกมีการติดค่อนข้างเร็วแต่ไม่ได้มีสถานการณ์รุนแรง ซึ่งกรณีที่รัฐบาลระงับการเดินทางเข้าไทยแบบ “เทสต์ แอนด์ โก” ชั่วคราว มองว่าจะไม่ส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจหรือจำนวนนักท่องเที่ยวในประเทศมากนัก เนื่องจากขณะนี้มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในประเทศไม่มากแต่ละเดือนมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไทย ประมาณหลักหมื่นเท่านั้น และผู้ที่ต้องการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวก็เต็มใจที่จะดำเนินตามมาตรการของรัฐบาลอยู่แล้ว
แต่ถ้าหากสถานการณ์ “โอไมครอน”รุนแรงขึ้น มองว่าประเทศไทยไม่ควรล็อกดาวน์เพราะจะทำให้เศรษฐกิจพังทันที เนื่องจากการล็อกดาวน์กิจกรรมต่างๆ จะกระทบต่อภาคเศรษฐกิจโดยตรงถึง 500,000-800,000 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ(จีดีพี) ปี 2565 ที่คาดว่าจะเติบโต 4% เติบโตเหลือเพียงร้อยละ 1-2 เท่านั้น ส่วนถ้าปิดประเทศและกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศแทนผ่านมาตรการต่างๆ ของรัฐ ทั้งคนละครึ่งและมาตรการช้อปดีมีคืน ปีหน้าก็ยังมีโอกาสโต 3-3.5%
“อย่างไรก็ตามมองว่าขณะนี้ไม่ควรล็อกดาวน์จากสถานการณ์โอมิครอน เนื่องจากจะทำให้ประชาชนตื่นตระหนก และไม่กล้าออกมาจับจ่ายใช้สอยหรือบริโภค” นายธนวรรธน์ กล่าว
นอกจากนี้ในเรื่องการควบคุมโควิดสายพันธุ์ “โอไมครอน” ไทยจะต้องตรวจหน้าด่านให้เข้มข้นขึ้น ซึ่งถ้าสามารถคุมการแพร่ระบาดของโอมิครอนได้ และรอให้วัคซีนถูกพัฒนาเพื่อต้านเชื้อตัวนี้ ประกอบกับการที่ประชาชนสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ และฉีดวัคซีนป้องกันโควิดสองเข็มอย่างเข้มงวด เชื่อว่าประเทศไทยจะสามารถป้องกันเชื้อโอมิครอนได้