“พิษโควิด” คนจนไทยพุ่ง4.8 ล้านคน เปิด 10 จังหวัดจนสุดในประเทศ ”ปัตตานี” ติดโผต่อเนื่อง 17 ปี  

REUTERS/Dado Ruvic/Illustration

“พิษโควิด” คนจนไทยพุ่ง4.8 ล้านคน เปิด 10 จังหวัดจนสุดในประเทศ”ปัตตานี”ติดโผต่อเนื่อง 17 ปี

ผลพวงจากการระบาดของโควิด-19 นับจากเดือนธันวาคม 2562 นำไปสู่วิกฤตการณ์ต่างๆ รวมถึงความยากจนและความเหลื่อมล้ำในประเทศไทย ที่เพิ่มทวีคูณขึ้น จากวิกฤตเศรษฐกิจและโควิด-19

๐”โควิด”ทำคนไทยจนเพิ่ม 5 แสนคน

จากรายงานของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้วิเคราะห์สถานการณ์ความยากจน และความเหลื่อมล้ำในปี 2563 ระบุว่า สัดส่วนคนจนเพิ่มขึ้นจาก 6.24% ในปี 2562 เป็น 6.84% ในปี 2563 หรือมีคนจนเพิ่มขึ้น 5 แสนคน จาก 4.3 ล้านคน เป็น 4.8 ล้านคน ผลจากการระบาดโควิด-19 ที่กระทบต่อเศรษฐกิจ การจ้างงานอย่างรุนแรง

Advertisement

โดยเศรษฐกิจไทยในปี 2563 หดตัวลง 6.1% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่ขยายตัว 2.3% ส่งผลกระทบต่อการจ้างงานในวงกว้าง โดยในปี 2563 มีผู้ว่างงาน 6.51 แสนคน คิดเป็นอัตราการว่างงาน 1.69% เพิ่มขึ้นจากปี 2562 ที่มีผู้ว่างงานจำนวน 3.73 แสนคน หรือคิดเป็นอัตราการว่างงาน 0.98%

แม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19จะส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจในวงกว้าง แต่จำนวนคนจนที่คำนวณจากคนที่มีค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตต่ำกว่าเส้นความยากจน (ต่ำกว่า 2,762 บาทต่อคนต่อเดือน)   กลับมีจำนวนเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย ส่วนหนึ่งเป็นผลจากมาตรการช่วยเหลือเยียวยาที่รัฐฐบาลได้ดำเนินการตลอดช่วงระยะเวลาของผลกระทบ เช่น โครงการเราไม่ทิ้งกัน

ขณะที่ภาพรวมครัวเรือนทั้งประเทศมีความเปราะบางเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีความสามารถหารายได้ลดลง ซึ่งสะท้อนจากชั่วโมงการทำงานที่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี และกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ลดลงมาอยู่ที่ระดับต่ำกว่าช่วงก่อนการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่หนี้สินครัวเรือนสูงขึ้นมาก และเงินออมในกลุ่มผู้มีรายได้น้อยมีแนวโน้มลดต่ำลง ทำให้พบว่าในปี 2563 มีครัวเรือนยากจนเพิ่มขึ้นจาก 1.31 ล้านครัวเรือน อยู่ที่  1.4 ล้านครัวเรือน

Advertisement

เมื่อพิจารณาความยากจนตามระดับความรุนแรง พบว่า ที่เพิ่มขึ้นมากคือคนยากจนมาก เพิ่มขึ้นถึง 3.3 แสนคนจากปีก่อน หรือเพิ่มขึ้น 25.8% ขณะที่คนจนน้อยเพิ่มขึ้น 0.9 แสนคน หรือเพิ่มขึ้น 2.95% ชี้ให้เห็นว่าคนจนที่มีความรุนแรงของปัญหาความยากจนเพิ่มขึ้นสดอคล้องกับตัวชี้วัดช่องว่างความยากจน

๐กระจุกตัวภาคใต้-อีสาน-เหนือ

 

 

 

ยังพบว่าคนจนส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคใต้ ภาคเหนือ ภาคกลาง และกรุงเทพมหานคร(กทม.)ตามลำดับ โดยกระจุกตัวอยู่ในภาคใต้ 11.60% ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 11.50% และภาคเหนือ 6.83%

โดยสาเหตุส่วนหนึ่งเป็นปัญหาด้านโครงสร้างการผลิตที่ส่วนใหญ่คนภาคตะวันออกเฉียงเหนือประกอบอาชีพเกษตรและเป็นแรงงานนอกระบบ ทำให้มีรายได้ไม่แน่นอน ส่วนภาคใต้มีปัญหาความรุนแรงขึ้นจากพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้

๐เปิด 10 จังหวัดจนสูงสุด “ปัตตานี”จนเพิ่ม1.5เท่า

 

สำหรับจังหวัดที่มีสัดส่วนคนจนสูงสุด 10 อันดับแรก ได้แก่ ปัตตานี แม่ฮ่องสอน นราธิวาส กาฬสินธุ์ ระนอง นครราชสีมา นครพนม ตาก ยะลา ศรีสะเกษ โดยจังหวัดปัตตานีมีสัดส่วนคนจนติดในอันดับสูงสุด 10 อันดับแรก ร่วม 17 ปี  ตั้งแต่ปี ‪2547-2563‬ โดยปี 2563 มีสัดส่วนคนจนเพิ่มขึ้น 1.5 เท่า

ขณะที่อีก 6 จังหวัดมีปัญาหาความยากจนเรื้อรัง ได้แก่ แม่ฮ่องสอน นราธิวาส กาฬสินธุ์ ตาก นครพนม และศรีสะเกษ โดยมีสัดส่วนคนจนอยู่ในลำดับสูงสุด 10 อันดับแรกเกือบทุกปี ระหว่างปี ‪2543-2563‬

๐เผยค่าใช้จ่ายต่อครัวเรือนเพิ่มขึ้น

เมื่อพิจารณาค่าใช้จ่ายของครัวเรือนยากจนในปี 2563 พบว่าเฉลี่ยอยู่ที่ 9,183 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน มีค่าใช้จ่ายในการชำระหนี้สินเฉลี่ย 1,275 บาทต่อเดือน รวมเป็นค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น 10,458 บาทต่อเดือน เพิ่มขึ้นจากปี 2562 ที่มีรายจ่ายรวม 9,679 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน

แบ่งเป็นค่าใช้จ่ายอุปโภคบริโภค 8,382 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน และเพื่อการชำระหนี้ 1,297 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน โดยเป็นหนี้สินกู้ยืมเพื่อทำการเกษตร 42% กู้ยืมเพื่ออุปโภคบริโภคในครัวเรือน 40%

๐ความเหลื่อมล้ำ”การศึกษา-หลักประกันสุขภาพ”

ส่วนสถานการณ์ความเหลื่อมล้ำ ด้านรายจ่ายมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น เป็นผลจากโควิด-19 ทำให้รายจ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคสูงขึ้น ด้านโอกาสทางการศึกษามีทิศทางดีขึ้นในเกือบทุกระดับชั้น มีเพียงระดับอนุบาลมีอัตราการเข้าเรียนลดลง 76.4% เป็นผลกระทบจากโควิด-19

อย่างไรก็ตามการเข้าศึกษาต่อในระดับสูงยังคงเป็นประเด็นน่าติดตาม มีแนวโน้มทำให้นักศึกษาในกลุ่มครัวเรือนที่ยากจนมีโอกาสในการเข้าถึงการศึกษาระดับสูงได้น้อยลง และโอกาสในการหลุดนอกระบบการศึกษาที่เพิ่มขึ้นจากปัญหาเศรษฐกิจ

เช่นเดียวกับความเหลื่อมล้ำในการเรียนรู้เกิดจากโควิด-19 ทำให้การเรียนการสอนในห้องเรียนไม่สามารถทำได้ ต้องผ่านแพลตฟอร์มการเรียนรู้อื่น ครัวเรือนที่ยากจนต้องแบกภาระมากว่ากลุ่มครัวเรือนที่ร่ำรวย นอกจากนี้ยังมีความเหลื่อมล้ำด้านคุณภาพการศึกษาระหว่างกลุ่มโรงเรียน ขนาดของโรงเรียน ที่ตั้งและภูมิภาค

ด้านการเข้าถึงหลักประกันสุขภาพมีความครอบคลุมประชากรเกือบทั้งประเทศ แต่ยังมีความเหลื่อมล้ำ ด้านคุณภาพบริการระหว่างพื้นที่ จากการกระจุกตัวของบุคลากรทางการแพทย์ ครุภัณฑ์การแพทย์ พบว่ากรุงเทพฯ เขตปริมณฑล และจังหวัดใหญ่ในภูมิภาคมีความพร้อมมากกว่าในเขตภูมิภาคและจังหวัดที่ห่างไกล

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image