สบน. เชื่อพ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนลบ.ที่เหลือ ยังพอรับมือ ‘โอมิครอน’ หากเลวร้ายสุด พื้นที่ทางการคลังยังว่างอยู่ ไม่เกินเพดาน 70% แน่นอน
เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม นางแพตริเซีย มงคลวนิช ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันวงเงินของพระราชดำหนด (พ.ร.ก.)กู้เงินฉบับเพิ่มเติม 5 แสนล้านบาท ยังมีวงเงินเหลืออยู่ ส่วนการแพร่ระบาดของโควิดสายพันธุ์โอมิครอนจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจมากน้อยเพียงใด จะต้องรอติดตาม อย่างไรก็ดี ปัจจุบันวงเงินที่มีอยู่น่าจะเพียงพอ แต่หากโอมิครอนมีความรุนแรงเกิดขึ้น และหากมีความต้องการการใช้เงินก็เป็นเรื่องของนโยบายที่จะต้องมาพิจารณากันอีกครั้งว่าจะต้องมีการหาแหล่งเงินเพิ่มหรือไม่ แต่มองว่าวงเงินที่มีอยู่ขณะนี้ยังเพียงพอ
นางแพตริเซีย กล่าวว่า ส่วนกรณีที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ปี 2565 นั้น จะต้องรอติดตามว่ามาตรการที่ออกไปจะมีผลมากน้อยเพียงใด กับการคงอยู่ของจีดีพี และการดูแลทางด้านสาธารณสุขว่าจะมีผลกระทบมากเพียงใด
นางแพตริเซีย กล่าวว่าขณะที่กรณีเลวร้ายของการระบาดโอมิครอน สบน. จะทบทวนหนี้สาธารณะทั้งปีอย่างไรนั้น ช่วงที่ผ่านมาได้มีการขยายเพดานหนี้ไปแล้ว จาก 60% ต่อจีดีพี เป็น 70% ต่อจีดีพี โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 58% ต่อจีดีพี ซึ่งการขยายเพดานหนี้ เป็นการเพิ่มพื้นที่ทางการคลังให้ หากมีความจำเป็นก็ยังมีพื้นที่ทางการคลังอยู่ โดยหากไม่ได้มีการตรากฎหมายใดๆ เพิ่มเติม สบน.ก็คาดว่า ณ สิ้นปีงบประมาณ 2565 สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อจีดีพี จะอยู่ที่ประมาณ 62%
“ทั้งนี้ก็เป็นเรื่องของตัวเลข หากจีดีพีหดตัวมากกว่าเดิม ตัวหารลดลง ก็เป็นไปได้ว่าหนี้สาธารณะจะเพิ่มขึ้น แต่ในทางกลับกัน หากหนี้สาธารณะดีขึ้น สัดส่วนจีดีพีดีขึ้น สัดส่วนหนี้สาธารณะก็เปลี่ยนได้ โดยในมุมมองของสบน. เราสร้างพื้นที่ทางการคลังไว้แล้ว มีเพดานได้ถึง 70% ต่อจีดีพี ซึ่งแผนการกู้เงินในปีงบประมาณ 2565 ก็ยังไม่ทำให้เพดานหนี้สาธารณะขยับไปถึง 65% ต่อจีดีพี เว้นแต่จะต้องมีการตรากฎหมายเพิ่มเติม”นางแพตริเซีย กล่าว
