‘แบงก์ชาติ’ มองโอมิครอนกระทบ ศก.ไทย ไตรมาสแรกปี’65 คาดครึ่งปีหลัง นทท.กลับมาคึกคัก

‘แบงก์ชาติ’ มองโอมิครอนกระทบ ศก.ไทย ไตรมาสแรกปี’65 คาดครึ่งปีหลัง นทท.กลับมาคึกคัก

เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม นางสาวชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายบริหารการสื่อสารองค์กร ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า เบื้องต้นที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ประเมินว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนจะยังไม่ส่งผลที่ชัดเจนต่อเศรษฐกิจไทยเดือนธันวาคม และภาพรวมของไตรมาส 4/64 โดยเชื่อว่าเศรษฐกิจไทยในปี’64 จะยังขยายตัวได้ในระดับใกล้เคียงกับที่เคยคาดการณ์ไว้ที่ 0.9%

ทั้งนี้ การระบาดของสายพันธุ์โอมิครอนอาจจะส่งผลกระทบในช่วงไตรมาสที่ 1/65 อย่างไรก็ตาม มีการมองแล้วว่านักท่องเที่ยวเข้ามาในช่วงครึ่งหลังของปี 2565 ซึ่งจะไม่ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวในครึ่งปีแรกอยู่แล้ว แต่ทาง ธปท.ยังคงเฝ้าระวังจับตาการระบาดของสายพันธุ์โอมิครอนอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ กนง.ได้รวมปัจจัยเรื่องกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่อาจได้รับผลกระทบไว้แล้วในการประมาณการของปี’65 ที่ล่าสุดปรับลดลงอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจมาอยู่ที่ 3.4% จากเดิมที่ 3.9%

นางสาวชญาวดีกล่าวว่า เนื่องจากประเทศไทยมีการพึ่งพาภาคการท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก ทำให้การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจค่อนข้างช้า ทำให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยยังอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งไม่เหมือนกับประเทศอื่นที่มีการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจค่อนข้างสูง อยู่เหนือระดับก่อนการระบาดโควิดแล้ว จึงมีการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ส่วนการแก้ไขปัญหาหนี้สิน ทาง ธปท.ได้มีการปรับนโยบายให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้นในการแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะการปรับโครงสร้างหนี้ที่ตอนนี้มีสถาบันการเงินเฉพาะกิจเข้ามาร่วมด้วย ซึ่งจะช่วยแบ่งเบาภาระหนี้ของประชาชนในระยะต่อไปได้

นางสาวชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายบริหารการสื่อสารองค์กร ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)

สำหรับเศรษฐกิจไทยในเดือนพฤศจิกายน 2564 ปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อน โดยการส่งออกสินค้าเพิ่มขึ้นตามอุปสงค์ประเทศคู่ค้า และปัญหาห่วงโซ่อุปทานชะงักงันที่ทยอยคลี่คลายลง สำหรับจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติปรับเพิ่มขึ้นหลังการเปิดรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ ด้านการใช้จ่ายในประเทศของภาคเอกชนเพิ่มขึ้นทั้งการบริโภคและการลงทุน ขณะที่การใช้จ่ายภาครัฐยังมีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะผ่านรายจ่ายเงินโอน ทั้งนี้ อุปสงค์ที่ฟื้นตัวทำให้การผลิตภาคอุตสาหกรรมทยอยปรับดีขึ้น

Advertisement

ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปปรับเพิ่มขึ้นตามราคาอาหารสดที่ได้รับผลกระทบชั่วคราวจากสถานการณ์น้ำท่วม ขณะที่ราคาในหมวดพลังงานยังอยู่ในระดับสูงตามราคาน้ำมันในตลาดโลก สำหรับอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ด้านตลาดแรงงานทยอยปรับดีขึ้นตามการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ แต่โดยรวมยังเปราะบาง สำหรับดุลบัญชีเดินสะพัดกลับมาเกินดุลเล็กน้อย เนื่องจากดุลรายได้ บริการ และเงินโอนขาดดุลน้อยลง ขณะที่ดุลการค้าเกินดุลมากขึ้น

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image