เปิดสารพัดปัจจัยที่ทำให้ ‘เนื้อหมู’ ราคาพุ่งปรี๊ด

เปิดสารพัดปัจจัยที่ทำให้ ‘เนื้อหมู’ ราคาพุ่งปรี๊ด

จากกรณีที่ประชาชนพากันเดือดร้อน เนื่องจากราคาหมูแพงขึ้นมาก จากเดิมกิโลกรัมละ 140-150 บาท แต่ปัจจุบันราคาพุ่งขึ้นไปเป็นกิโลกรัมละ 200 บาท บางจังหวัดพุ่งสูงถึง 250 บาท จนทำให้ประชาชนส่วนหนึ่งซื้อเนื้อหมูไปบริโภคไม่ไหว หันไปซื้อเนื้อสัตว์ประเภทอื่นๆ รับประทานแทน โดยเฉพาะเนื้อปลา โดยในอนาคตคาดการณ์กันว่า ราคาเนื้อหมูอาจพุ่งเกินกว่ากิโลกรัมละ 300 บาท

ซึ่ง นายสนั่น พยัคฆศักดิ์ ประธานกรรมการ สหกรณ์ผู้เลี้ยงสุกรเชียงใหม่-ลำพูน ระบุก่อนหน้านี้ว่า เกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากที่สุดในอาชีพ จากผลกระทบของภาวะโรคในสุกร โดยเกษตรกรในภาคเหนือต้องหยุดการเลี้ยงสุกรไปแล้วมากกว่า 80% เหลือเพียง 20% ที่สามารถเลี้ยงสุกรได้ต่อไป แต่เป็นการเลี้ยงไม่เต็มกำลังการผลิต เพื่อลดความเสี่ยงจากภาวะโรค ทำให้ปริมาณผลผลิตสุกรขุนในเขตภาคเหนือขาดแคลนอย่างหนักนั้น

“มติชนออนไลน์” จึงรวบรวมปัจจัยที่ทำให้ราคาเนื้อหมูในปัจจุบัน มีราคาพุ่งสูงขึ้นมาก โดยกรมปศุสัตว์ได้รายงานสถานการณ์ของโรคระบาดในสุกรของประเทศไทยจากระบบการเฝ้าระวังโรคระบาดทั้งเชิงรุก และเชิงรับ พบว่า ในช่วงระยะเวลาตั้งแต่ปี 2561-2564 ประเทศไทยมีการระบาดของโรคที่สำคัญในสุกร ได้แก่

โรคพีอาร์อาร์เอส (PRRS หรือเพิร์ส) คือโรคกลุ่มอาการในระบบสืบพันธุ์และระบบทางเดินหายใจในสุกร พบการระบาดรวม 707 ครั้ง

Advertisement

โรคอหิวาต์สุกร พบการระบาด 24 ครั้ง

เเละ โรคปากและเท้าเปื่อย พบการระบาด 11 ครั้ง

นอกจากนี้ สุกรไทยยังมีความเสี่ยงสูง อาจเจอการระบาดจากโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร ซึ่งปัจจุบันยังไม่พบ เนื่องจากเกิดการระบาดโรคดังกล่าวในประเทศเพื่อนบ้านรอบๆ ประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันกำลังเฝ้าระวัง และเตรียมความพร้อมรับมือต่อโรคดังกล่าว

Advertisement
แฟ้มภาพ
แฟ้มภาพ

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image