ท่องเที่ยวเชียงใหม่คึกคัก ดันอัตราเข้าพักแตะ 85% ย้ำรัฐเร่งกระตุ้นเที่ยวในประเทศ
นางละเอียด บุ้งศรีทอง นายกสมาคมโรงแรมไทย (ภาคเหนือตอนบน) เปิดเผยว่า บรรยากาศการท่องเที่ยวในภาคเหนือ โดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ ถือว่าคึกคักดีมาก ภาพการเดินทางฟื้นตัวดีขึ้นยาวตั้งแต่วันที่ 10 ธันวาคม 2564 เป็นต้นมา เห็นการไต่ระดับดีขึ้นมาเรื่อยๆ จนถึงช่วงเทศกาลและการจัดงานเคาต์ดาวน์ 2022 ที่ดูดีมาก ซึ่งสามารถแบ่งกลุ่มนักท่องเที่ยวได้เป็นตลาดคนไทยกว่า 95% ส่วนตลาดต่างชาติ มีเพียง 5% ทำให้เห็นว่าสัดส่วนของนักท่องเที่ยวขณะนี้คือคนไทยเป็นหลัก ที่มีปัจจัยบวกเฉพาะ เนื่องจากท่องเที่ยวภาคเหนือยังเป็นที่ชื่นชอบของคนไทยอยู่
นางละเอียดกล่าวว่า ในเดือนธันวาคม 2564 พบอัตราการเข้าพักเฉลี่ยอยู่ที่ 80-85% แบ่งเป็นโรงแรมนอกเมือง 80-85% โรงแรมในเมือง 70% ซึ่งจะเห็นว่าโรงแรมที่พักนอกเมืองโดยเฉพาะที่ติดภูเขา หรือแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติ จะได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวคนไทยสูงมาก เพราะคนไทยนิยมออกไปสัมผัสบรรยากาศนอกเมือง ธรรมชาติ ป่าเขาต่างๆ มากกว่าในเมือง แต่โรงแรมที่พักในเมืองก็ยังได้อานิสงส์อยู่ เฉลี่ยมีการเข้าพักประมาณ 1-2 คืน แต่ไม่ได้มากนัก โดยประเมินจำนวนวันเข้าพักค้างคืนของโรงแรมในเมือง อยู่ประมาณ 2 วัน และโรงแรมนอกเมือง อยู่ประมาณ 2-3 วัน ซึ่งเป็นการประเมินตามค่าเฉลี่ยของเวลาการเข้าพักและจำนวนคืนที่พักค้างแรม
“กำลังซื้อของคนไทยที่มองว่าค่อนข้างถดถอยลง ทำให้รัฐบาลมีโครงการออกมากระตุ้นการท่องเที่ยว ได้แก่ เราเที่ยวด้วยกัน และทัวร์เที่ยวไทย ซึ่งโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ถือว่าได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวค่อนข้างมาก เนื่องจากรัฐบาล สมทบค่าที่พัก 40% และมีคูปองอิเล็กทรอนิสก์ที่สามารถซื้อสินค้าและบริการได้อีกในจำนวน 600 บาทต่อวัน จึงเป็นโครงการที่เข้ามาช่วยสนับสนุนและดึงบรรยากาศให้ดีขึ้นบ้าง แต่เนื่องจากจำนวนห้องพัก 1 ล้านห้องหมดลงแล้ว ทำให้ถือเป็นการเข้ามาช่วยในระยะสั้นมากกว่า” นางละเอียดกล่าว
นางละเอียดกล่าวว่า ขณะนี้ประเมินว่าในไตรมาส 1/2565 การท่องเที่ยวภาคเหนือยังได้อานิสงส์การเดินทางจากตลาดในประเทศเป็นหลัก จึงต้องการให้รัฐบาลเร่งกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ ที่กำลังซื้อของคนส่วนใหญ่จะแผ่วลง ให้ทยอยปรับตัวดีขึ้น และขยายเวลาดำเนินและเพิ่มสิทธิของโครงการเราเที่ยวด้วยกันเพิ่ม และปรับเงื่อนไขโครงการทัวร์เที่ยวไทย ให้สามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น รวมถึงกระตุ้นการเดินทางขององค์กร โดยเฉพาะหน่วยงานภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ ที่ยังมีงบประมาณเหลืออยู่ ให้จัดงานสัมมนา หรือทำกิจกรรมข้ามจังหวัดมากขึ้น ซึ่งส่วนนี้จะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวและการใช้จ่ายในประเทศได้สูงมาก เนื่องจากขณะนี้ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ พิจารณาในภาคเหนือ ยังคงราคาห้องพักไว้ที่ระดับเดิมแบบไม่มีการปรับขึ้น เพื่อดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเข้ามา เนื่องจากกำลังซื้อของคนส่วนใหญ่ลดลง บวกกับการเปรียบเทียบราคาในปัจจุบันของแต่ละโรงแรม หรือที่พักในระดับเดียวกัน สามารถทำได้ง่ายขึ้น มีหลายแพลตฟอร์มที่ประเมินได้ ซึ่งถือเป็นเทคโนโลยีที่เข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกให้ทั้งผู้ประกอบการ ในการวางแผนการขาย และลูกค้าก็สามารถประเมินราคาห้องพักที่เหมาะสมได้เอง จึงอยากให้รัฐบาลมีโครงการออกมากระตุ้นเพิ่มเติมจากที่ผู้ประกอบการพยายามตรึงราคาห้องพักไว้ในตอนนี้ด้วย
