“Krungsri Auto” ชวนลูกค้าตรวจสุขภาพการเงิน
นางกฤติยา ศรีสนิท ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แม้โควิด-19 จะอยู่ในชีวิตเรามาเป็นระยะเวลา 2 ปีแล้ว แต่คงปฏิเสธไม่ได้ว่า วิกฤตดังกล่าวยังคงสร้างอุปสรรคต่อการเงินส่วนบุคคลอยู่ไม่มากก็น้อย งานสัมมนาครั้งนี้จึงไม่ได้มีเพียงผู้เชี่ยวชาญ 3 ท่าน มาร่วมแบ่งปันเทคนิคด้านการบริหารจัดการเงินและเทคนิคในการสร้างรายได้เสริมเท่านั้น แต่เรายังเปิดโอกาสให้ลูกค้าที่ต้องการสร้างวินัยทางการเงินที่ดี ได้ปรึกษากับทีมงานกรุงศรี ออโต้ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการเงิน ตลอดระยะเวลา 1 ปีอีกด้วย เพื่อสนับสนุนให้ลูกค้าของเราพร้อมเดินหน้าต่อได้ในทุกสถานการณ์
นายจักรพงษ์ เมษพันธุ์ หรือ โค้ชหนุ่ม ผู้เชี่ยวชาญด้านการวางแผนการเงินส่วนบุคคล กล่าวว่า เมื่อเจอกับปัญหาการเงิน หลายคนมักตื่นตระหนกจนไม่รู้จะเริ่มต้นแก้ไขอย่างไร เพราะเวลาเราเป็นหนี้ เรามักไปโฟกัสอยู่กับโจทย์ที่ว่า ทำอย่างไรหนี้จึงจะหมดไป แต่หนี้ไม่จำเป็นต้องหมด เราก็สามารถหายใจคล่องได้ สิ่งที่เราควรต้องให้ความสำคัญจริงๆ คือ กระแสเงินสด ดังนั้น อยากให้ลองตรวจเช็กดูว่า ตอนนี้เงินสดที่มีอยู่ในมือเป็นบวกหรือลบ หากเป็นบวก นั่นหมายถึงว่าเรามีสมดุลการใช้จ่ายที่ดี แต่หากยังเป็นลบ ต้องดูว่าจะสามารถทำให้กลับมาเป็นบวกอย่างไร โดยอาจเริ่มจากการเช็กงบแสดงสถานะทางการเงินที่แสดงทรัพย์สินและหนี้สิน และงบรายรับรายจ่ายที่มองไปถึงอนาคตว่า จะมีค่าใช้จ่ายหรือรายรับอะไรเข้ามาบ้าง
“โจทย์เล็กคือเราจะผ่านโควิดได้อย่างไร โจทย์ใหญ่คือเราจะใช้ชีวิตต่อไปอย่างไรในยามเกษียณ ดังนั้น การรักษาที่ยั่งยืนคือการไม่สร้างหนี้เพิ่ม โปะหนี้ทีละรายการ หรือรวมหนี้เป็นก้อนเดียว โดยอาจจะทำได้ผ่านการรีไฟแนนซ์ ซึ่งไม่ใช่การแก้หนี้ให้หายไป แต่เป็นการหาดอกเบี้ยที่ลดลงและเพิ่มสภาพคล่อง ที่สำคัญ เรายังต้องกล้าที่จะเจรจาและเปิดเผยข้อมูลกับสถาบันการเงิน เพราะเป็นหน้าที่ของสถาบันการเงินเช่นกัน ที่จะช่วยเราหาทางออกจากสภาพทางการเงินอ่อนแอ”นายจักรพงษ์กล่าวและว่า “ทักษะ ความรู้ที่เรียนมา สายสัมพันธ์ หรือไอเดียใหม่ที่อยากลองทำสามารถเปลี่ยนเป็นรายได้ได้ทั้งสิ้น เราสามารถเริ่มต้นจากการนึกถึงสิ่งที่ตัวเองทำได้ หากสิ่งๆ นั้นสามารถสร้างประโยชน์หรือช่วยเหลือใครได้ ย่อมสามารถนำมาผลิตเป็นสินค้า สร้างเป็นบริการ หรือขายเป็นความรู้ได้อย่างแน่นอน โดยลองตั้งเป้าหมายและให้เวลาตัวเองทดลองและเรียนรู้ประมาณ 6 เดือน เพื่อช่วยเป็นแนวทางชี้ว่าวิธีการนั้นได้ผลจริงหรือไม่
ผศ. ลลิตา สันติวรรักษ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งและนักวิชาการอิสระ กล่าวว่า การเผยแพร่เนื้อหาของแบรนด์ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์เป็นการเริ่มต้นที่ดี แต่ต้องไม่มองข้ามการใช้ข้อมูลเชิงลึกให้เป็นประโยชน์ ข้อดีของเครื่องมือดิจิทัล คือ การรายงานผลที่ชัดเจน ซึ่งช่วยวิเคราะห์ได้ว่าแผนงานของเรามีประสิทธิภาพมากน้อยเพียงใด ตอบวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายจริงๆ หรือไม่ ดังนั้น เราจึงต้องหมั่นติดตามผลของแคมเปญออนไลน์ และเก็บข้อมูลอย่างเป็นระบบ เพื่อช่วยในการวางแผนการตลาดต่อไปในอนาคต และทำให้เรามั่นใจได้ว่า เม็ดเงินที่ใช้ไปนั้นคุ้มค่าที่สุด
นายชยุต ปริญญาธนกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชยุต ต้าร์พรีม คอลซัลแตนท์ จำกัด กล่าวว่า การออมเงินอย่างสม่ำเสมอทำให้เรามีเงินเก็บ แต่เงินเหล่านั้นจะไม่งอกเงย อย่างไรก็ดี หากเรารู้จักเครื่องมือทางการลงทุนที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้ สุขภาพการเงินของเราก็มีแนวโน้มที่จะแข็งแรงยิ่งขึ้นตามไปด้วย อย่างไรก็ตาม ทุกการลงทุนมีความเสี่ยง เราจึงต้องรู้จักเครื่องมือ และจังหวะในการลงทุนที่เหมาะสม รวมถึงต้องรู้จักลงทุนในสินทรัพย์หลากหลายประเภทเพื่อกระจายความเสี่ยงด้วย
