‘ประภัตร’ นั่งหัวโต๊ะเร่งแก้หมูแพง จ่อหารือ พณ.หยุดส่งออกทันที หวังปริมาณพอต่อความต้องการในประเทศ

‘ประภัตร’ นั่งหัวโต๊ะเร่งแก้ไขปัญหาราคาหมูพุ่ง เล็งหารือพาณิชย์หยุดส่งออก หวังให้ปริมาณพอต่อความต้องการในประเทศ

เมื่อวันที่ 5 มกราคม นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังหารือการแก้ไขปัญหาราคาเนื้อสุกรในประเทศปรับสูงขึ้น โดยมี นายสัตวแพทย์ชัยวัฒน์ โยธคล รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ ตัวแทนจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องร่วมหารือว่า อุตสาหกรรมการเลี้ยงสุกรภายในประเทศปี 2563-64 มีผู้ประกอบการรวม 190,000 ราย สามารถผลิตสุกรประมาณ 20 ล้านตัว/ปี ประมาณ 10,000 ราย เป็นผู้ประกอบการขนาดกลางและใหญ่ มีปริมาณสุกรมากกว่า 10 ล้านตัว และอีก 180,000 ราย เป็นเลี้ยงสุกรรายเล็ก รายย่อ โดยเมื่อปี 2563-64 ประเทศเพื่อนบ้านโดยรอบเกิดโรคระบาดในสุกร

นายประภัตรกล่าวว่า โดยเฉพาะ โรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (เอเอสเอฟ) ทำให้ไทยต้องใช้มาตรการเข้มข้นในการควบคุมและป้องกันการระบาดของโรค ประกอบกับสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ทำให้ความต้องการบริโภคเนื้อสุกรลดลง ในขณะที่ต้นทุนอาหารสัตว์ เวชภัณฑ์ ยารักษาโรคในสุกรปรับสูงขึ้น เกษตรกรจำนวนหนึ่งจึงปรับแผนลดการผลิตสุกรขุนลง ส่งผลให้ปริมาณสุกรในประเทศลดลง ในขณะที่ปี 2564 ถึงปัจจุบัน รัฐบาลไทยสามารถยับยั้งการระบาดของโรคในสุกรได้อย่างดีเยี่ยม สุกรไทยเป็นที่ต้องการมากขึ้นในประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้ราคาเนื้อหมูสดภายในประเทศปรับราคาสูงขึ้น

“พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความเป็นห่วงต่อสถานการณ์ราคาเนื้อสุกรภายในประเทศ จึงได้สั่งการมายังกระทรวงเกษตรฯให้เร่งติดตามและแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างเร่งด่วน ทั้งในระยะสั้นเพื่อลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชน และในระยะกลาง-ยาว เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ผู้ประกอบการที่เลี้ยงสุกรทุกขนาดให้กลับมาประกอบอาชีพ สามารถสร้างงาน สร้างรายได้ในครัวเรือน และสร้างความมั่นคงด้านอาหารให้กับประเทศ

“ในฐานะที่กำกับดูแลกรมปศุสัตว์ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกระทรวงเกษตรฯเร่งหารือร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ เพื่อที่จะหยุดการส่งออกสุกรในทันที เพื่อให้มีปริมาณสุกรอยู่ในประเทศเพียงพอต่อความต้องการ” นายประภัตรกล่าว

Advertisement

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายประภัตรกล่าวต่อว่า สำหรับในระยะกลาง-ยาวนั้น กรมปศุสัตว์จะเริ่มส่งเสริมเกษตรกรรายเล็กและรายย่อยเดิม ในพื้นที่ที่มีความเหมาะสม โดยขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการขนาดใหญ่ให้ผลิตลูกหมูเพิ่ม เพื่อส่งให้เกษตรกรรายเล็กและรายย่อยเลี้ยง โดยจะใช้เงินทุนจากธนาคาร ธ.ก.ส. ภายใต้โครงการสานฝันสร้างอาชีพ ยกระดับรายได้เกษตรกร เข้ามาสนับสนุน เพื่อใช้เป็นต้นทุนในการดำเนินการ คาดว่าภายใน 4 เดือน จำนวนสุกรขุนจะเพิ่มขึ้น และราคาจะปรับเข้าสู่ภาวะปกติ นอกจากนี้ กระทรวงเกษตรฯยังเตรียมหารือมาตรการลดต้นทุนการนำเข้าวัตถุดิบอาหารสัตว์จากต่างประเทศ ร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร และจะส่งเสริมการปลูกข้าวโพดมาเป็นพืชอาหารสัตว์ให้มีปริมาณเพิ่มขึ้น เนื่องจากในอุตสาหกรรมการเลี้ยงสัตว์ประเทศไทยมีความต้องการใช้ถึง 8 ล้านตัน/ปี แต่มีกำลังการผลิตเพียง 4 ล้านตัน/ปี

นายประภัตรกล่าวว่า นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้กรมปศุสัตว์เร่งเตรียมการสำรวจพื้นที่ที่มีความเหมาะสม และมีความเสี่ยงจากโรคระบาด เพื่อกำหนดเป็นพื้นที่ในการผลักดัน “ปศุสัตว์ Sandbox” หรือเขตพื้นที่ควบคุมพิเศษ ส่งเสริมการนำเข้า การผลิต และส่งออกสินค้าปศุสัตว์ ตามโยบายของนายกรัฐมนตรีโดยด่วนอีกด้วย

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image