หอการค้าชี้รัฐเร่งคนละครึ่งเป็น ก.พ.นี้ มาถูกทางแล้ว
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า กรณีที่รัฐบาลเร่งรัดออกโครงการคนละครึ่ง เฟส 4 ให้สามารถใช้ได้เร็วขึ้น เป็นช่วงเดือนกุมภาพันธ์นี้ ถือว่าดีและมาถูกทางแล้ว เนื่องจากหอการค้าเรียกร้องรัฐบาลให้ต่ออายุ และเพิ่มวงเงินโครงการคนละครึ่งมาตั้งแต่ปี 2564 เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายของประชาชน โดยวงเงินที่เพิ่มให้ 1,500 บาทต่อคน มองว่าไม่ได้น้อยเกินไป แต่ต้องทยอยเพิ่มวงเงินให้เป็นระยะๆ เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายของประชาชนให้ได้อย่างต่อเนื่อง
นายสนั่น กล่าวว่า ขณะนี้ภาครัฐควรต้องเร่งโครงการช้อปดีมีคืน ซึ่งความจริงอยากให้เพิ่มเพดานวงเงินที่ได้คืน เป็น 50,000-100,000 บาท จากเดิม 30,000 บาท เพื่อสร้างแรงสั่นสะเทือนให้มากกว่านี้ เพราะความจริงช้อปดีมีคืน สามารถกระตุ้นการใช้จ่ายของกลุ่มคนมีเงินที่ต้องเสียภาษีได้สูงมาก โดยมองว่าหากไม่มีการระบาดโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน เชื่อว่าการใช้จ่ายของคนที่ยังมีเงินอยู่จะระเบิดออกมามากกว่านี้ เนื่องจากที่เห็นช้อปดีมีคืนค่อนข้างเงียบและช้าอยู่นั้น เป็นเพราะตอนนี้คนส่วนใหญ่ไม่กล้าออกจากบ้าน เพื่อใช้จ่ายเท่านั้น แต่เชื่อเหลือเกินว่า หากโอมิครอนคลายตัวได้เร็ว เม็ดเงินในช้อปดีมีคืนจะสะพัดแรงมากแน่นอน
“สถานการณ์การระบาดโอมิครอน ที่พบการแพร่ระบาดเร็วกว่าเดิม แต่อาการไม่ได้หนักมากเท่าเชื้อเดลต้า รวมถึงสามารถรักษาหายได้เร็ว จึงเชื่อว่าแม้ยอดติดเชื้อจะเพิ่มมากขึ้น แต่ผลกระทบคงไม่ได้หนักเท่าช่วงที่ผ่านมา โดยสาธารณสุขได้ประเมินว่า ยอดผู้ติดเชื้อโควิดโอมิครอน จะเพิ่มขึ้นถึง 10,000-30,000 คนต่อวัน แต่ภาคเอกชนก็ยังหวังว่า จะไม่ได้เห็นยอดผู้ติดเชื้อดังกล่าวเกิดขึ้นในประเทศไทย โดยรัฐบาลจะต้องควบคุมการระบาดให้ได้ ควบคู่กับการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อให้เศรษฐกิจสามารถเดินหน้าต่อไปได้” นายสนั่น กล่าว
