‘สันติ’ แนะไอเดียแก้ ‘หวยแพง’ เปลี่ยนไปกด ‘ซื้อ-ขาย’ สลากบนแท็บเล็ต

“สันติ” แนะไอเดียแก้ “หวยแพง” ให้สำนักงานสลากฯศึกษาวิธีการขายใหม่ กดซื้อลอตเตอรี่ผ่านแผงขายอิเล็กทรอนิกส์ งดผู้ค้าถือใบสลาก นำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้เพิ่มความทันสมัย พร้อมช่วยตัดวงจรพ่อค้าคนกลาง

นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลัง พ.ท.หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เข้าพบเพื่อหารือเตรียมข้อมูลไปตอบกระทู้ ในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร  ว่า ได้เสนอแนะให้สำนักงานสลากฯไปศึกษาวิธีการขายสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือลอตเตอรี่รูปแบบใหม่ ด้วยการเปลี่ยนแผงขายลอตเตอรี่ของผู้ค้ารายย่อยกว่า 2 แสนราย ในปัจจุบัน เป็นแผงขายแบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือแท็บเล็ต ซึ่งจะเชื่อมต่อกับระบบข้อมูลของสำนักงานสลากฯ

เมื่อผู้บริโภคตกลงซื้อขายลอตเตอรี่ด้วยการกดเลือกตัวเลขที่ต้องการซื้อ จะซื้อกี่ใบก็ได้ ถ้าตัวเลขนั้นยังมีอยู่ในระบบ เช่น จะซื้อ 123456 จำนวน 10 ใบ แต่เมื่อกดตัวเลขแล้ว มีเพียง 4 ใบ ก็สามารถซื้อได้เพียง 4 ใบเท่านั้น เมื่อตกลงซื้อลอตเตอรี่กันแล้ว ก็ชำระเงินผ่านแอพพลิเคชั่นเป๋าตัง หลังจากนั้นแผงขายอิเล็กทรอนิสก์ หรือแท็บเล็ต ก็จะพิมพ์คำสั่งซื้อออกมา เพื่อเป็นหลักฐานและนำไปรับลอตเตอรี่กับสำนักงานสลากฯ หรืออาจจะพิมพ์ลอตเตอรรี่เหมือนกับการซื้อลอตเตอรี่ตามแผงปกติในปัจจุบัน โดยเชื่อว่าจะช่วยแก้ไขปัญหาการขายสลากเกินราคา 80 บาทได้ เพราะตัดผู้ค้าคนกลางออกไป

“การแก้ไขปัญหาสลากเกินราคานั้น ถ้ายังคงใช้วิธีเดิมๆ ก็คงไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ เพราะคิดกันมาหลายปี ก็ยังแก้ไม่ได้ ดังนั้นถ้าจะแก้ไขจริง ก็ต้องศึกษาจริงจัง ปรับวิธีการขายเป็นแผงอิเล็กทรอนิกส์ ลดผู้ค้าคนกลาง ลดการซื้อจองล่วงหน้า เพราะการซื้อจองล่วงหน้า ทำให้เกิดผู้ค้าคนกลาง ถ้าตัดวงจรการซื้อของผู้ค้าคนกลางไม่ได้ ก็แก้ไขปัญหาขายสลากเกินราคาไม่ได้ แต่ถ้าตัดวงจรผู้ค้าคนกลางได้ ก็แก้ปัญหาหวยแพงได้ และวิธีการนี้จะไม่กระทบผู้ค้ารายย่อย เพราะผู้ค้ารายย่อยยังขายได้เหมือนเดิม ส่วนเงินลงทุนปรับเปลี่ยนวิธีการนั้น สำนักงานสลากฯก็ต้องเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้ก่อน ” นายสันติกล่าว

Advertisement

 

อย่างไรก็ตาม วิธีการเปิดซื้อจองลอตเตอรี่ในปัจจุบันเป็นการเปิดขายจองกันล่วงหน้า ซึ่งจะรู้จำนวนเล่มที่ชัดเจนว่าได้ 5 เล่มหรือ 10 เล่ม เมื่อผู้ซื้อจองล่วงหน้า ไปรับเล่มที่ซื้อจองไว้แล้ว ก็สามารถนำไปขายให้ผู้ค้าคนกลาง เพื่อนำไปรวมชุด เมื่อมีการรวมชุด ก็ต้องมีค่าแรง เมื่อมีค่าใช้จ่ายในการรวมชุด ก็ต้องขายสลากราคาแพงขึ้นเป็นเรื่องปกติ เพราะเป็นการค้าขาย ทำกำไร

“เมื่อผู้จองล่วงหน้าซื้อในราคา 70.40 บาทต่อใบ นำไปขายให้ผู้ค้าคนกลางในราคาใบละ 80 บาท ซึ่งก็ไม่ถือเกินราคา ไปห้ามเขาขายก็ไม่ได้ และเมื่อผู้ค้าคนกลางนำไปรวมชุดก็ต้องมีการบวกค่าใช้จ่าย เมื่อผู้ค้ารายย่อยไปรับมาในราคา 85-90 บาท ก็ต้องนำมาขายในราคาที่แพง ซึ่งก็เป็นวัฏจักรแบบนี้มาหลายสิบปี แก้ไขไม่ได้สักที ก็ลองไปศึกษาวิธีการขายรูปแบบใหม่ ให้ทันสมัย สอดคล้องสถานการณ์ โดยเฉพาะการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ มาช่วยขาย เชื่อว่าแก้ไขปัญหาได้แน่” นายสันติกล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image