เอกชนท่องเที่ยวจี้รัฐยกเลิกระงับเทสต์ แอนด์ โก หลังทำต่างชาติวูบ ฉุดอัตราเข้าพักเหลือ 10%

เอกชนท่องเที่ยวจี้รัฐยกเลิกระงับเทสต์ แอนด์ โก หลังทำต่างชาติวูบ ฉุดอัตราเข้าพักเหลือ 10%

นายธเนศ ศุภรสหัสรังสี รักษาการประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่า ขณะนี้ภาคธุรกิจท่องเที่ยวอยากให้ยกเลิกการระงับการพิจารณาอนุมัติการเข้าประเทศผ่านรูปแบบเทสต์ แอนด์ โก ทันที เนื่องจากผลกระทบที่เกิดขึ้น ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติหายไปจำนวนมาก สะท้อนได้จากนักท่องเที่ยวที่เดิมเข้ามาในพื้นที่พัทยา จำนวน 500-600 คนต่อวัน ปัจจุบันเหลือเพียง 200 คนต่อวัน เท่านั้น ทำให้อัตราการเข้าพักลดลงมาเหลือเพียง 10% ของจำนวนห้องพักที่มีอยู่ โดยในเดือนกุมภาพันธ์นี้ คาดว่าจะเหลือไม่ถึง 10% แล้ว

“ขอให้รัฐบาลกำหนดเรื่องการซื้อประกันสุขภาพของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติใหม่ เพราะบางคนซื้อแค่ประกันการเดินทาง ไม่ได้ซื้อประกันสุขภาพ ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติบางคน หากเข้ามาอยู่ในไทยหลายวันแล้วก็จะบอกว่าไม่มีเงินเหลือแล้ว ทำให้โรงพยาบาลก็ไม่อยากรับดูแล รวมถึงประกันสุขภาพในหลายประเทศ ไม่ได้ครอบคลุมการจ่ายค่าดูแลรักษา หากติดเชื้อแบบไม่แสดงอาการ หรือไม่ได้อาการหนักถึงขั้นนอนโรงพยาบาลด้วย รวมถึงขอให้แก้ไขปัญหาการลงทะเบียนเข้าประเทศผ่านระบบไทยแลนด์ พาส ที่บ่อยครั้งพบว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติตะจองห้องพักผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ หรือแทรเวล เอเจนท์ อาทิ อโกด้า บุ๊กกิ้งดอทคอม แต่ไม่ได้จองรถรับส่งเพื่อเดินทางเข้าพักในโรงแรมที่จองไว้ ทำให้บางคนนั่งรถโดยสารหรือเรียกแท็กซี่มาเอง ซึ่งกรณีแบบนี้หากมีการติดเชื้อโควิด-19 จะส่งผลให้เกิดการแพร่ระบาดไปทั่วเป็นวงกว้างได้” นายธเนศกล่าว

นายธเนศกล่าวว่า หลังจากฟื้นเทสต์ แอนด์ โกกลับมา ก็อยากให้แก้ไขอุปสรรคจากการดำเนินการของภาครัฐ คือ นักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนมากลงทะเบียนผ่านแอพพลิเคชั่นหมอชนะไม่ได้ และอยากให้รัฐบาลมีมาตรการชัดเจนแบบทั่วประเทศทำเหมือนกัน เข้าใจในทิศทางเดียวกัน เพื่อไม่ต้องให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดไปกำหนดเอาเอง ว่า ให้โรงแรมที่เปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ หากไม่ติดปัญหาต้องใช้ระบบแอร์รวม และมีพื้นที่ใช้สอยปูด้วยพรมนั้น จะต้องมีการกันห้องพักไว้ 5% ของจำนวนห้องพักในโรงแรมทั้งหมด เพื่อทำเป็นโฮเทล ไอโซเลชั่น เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในกรณีการติดเชื้อโควิด-19 แต่ไม่มีอาการ รวมถึงให้แพทย์ติดตามรักษาในรูปแบบเทเลเมดิซีน ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ เหมือนที่จังหวัดภูเก็ตสามารถทำในรูปแบบนี้ได้ เพราะโรงแรมในพัทยามีความพร้อมและสามารถดำเนินการในรูปแบบนี้ได้อยู่แล้ว เนื่องจากที่ผ่านมาในพัทยามีฮอสปิเทล 18,000 ห้อง และโรงแรมกักกันทางเลือกกว่า 6,000 ห้อง จึงมีโรงพยาบาลที่เป็นคู่สัญญาอยู่แล้ว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image