ส.ภัตตาคารไทย พอใจเปิดถึง 5 ทุ่ม-ขายน้ำเมา ได้ความปกติกลับคืนมา

ส.ภัตตาคารไทย พอใจเปิดถึง 5 ทุ่ม-ขายน้ำเมา ได้ความปกติกลับคืนมา

นางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย เปิดเผยว่า จากกรณีที่มติการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2565 ที่มีการปรับพื้นที่และอนุญาตให้มีการจำหน่ายและดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหารได้ ถึงเวลา 23.00 น. นั้น สำหรับพื้นที่เฝ้าระวังสูง หรือพื้นที่สีเหลือง จำนวน 25 จังหวัด และพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว หรือพื้นที่สีฟ้า 8 จังหวัดนั้น ถือว่าพอใจในมติ เพราะการที่เปิดร้านได้ถึงเวลา 23.00 น. ก็ถือว่าตรงกับชีวิตปกติของผู้ประกบการร้านอาหารและภัตตาคารอยู่แล้ว ซึ่งมีรายได้หลักมาจากการเปิดร้านให้นั่งรับประทานอาหาร การจำหน่ายเครื่องดื่ม รวมถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และการบริการต่างๆ แม้ว่าช่วงต้นเดือนมกราคม 2565 สมาคมจะมีการสนับสนุนเรื่องการทำข้าวกล่องให้กับผู้ป่วยที่รักษาที่บ้าน (โฮม ไอโซเลชั่น) เพื่อเป็นรายได้เสริม ในช่วงที่ยังทำธุรกิจร้านอาหารไม่ได้ปกติ แต่กลับพบว่าไม่ได้คุ้มค่าเลย เมื่อเทียบกับการเปิดร้านได้ปกติ ดังนั้น ผู้ประกอบการก็ยินดีอย่างมากที่ได้กลับมาค้าขาย ได้ความเป็นปกติกลับคืนมา

สำหรับพื้นที่ควบคุม หรือพื้นที่สีส้ม จำนวน 44 จังหวัด ซึ่งยังไม่อนุญาตให้จำหน่ายและดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้นั้น มีสมาชิกร้านอาหารและภัตตาคารจำนวนหนึ่ง อาทิ นครปฐม ได้ร้องเรียนมาที่สมาคม ว่าร้านนั้นติดกับกรุงเทพมหานคร แต่กลับเปิดไม่ได้ อยากให้สมาคมช่วย อาจด้วยการสื่อสารที่ไม่ชัดเจน ทำให้ผู้ประกอบการและประชาชนไม่เข้าใจสถานการณ์ที่อาจจะยังมีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก อยากให้สาธารณสุขหรือ ศบค.ประจำจังหวัดช่วยประชาสัมพันธ์ เพื่อทำความเข้าใจกันภายในพื้นที่ว่าเสี่ยงอย่างไร ยังมีคลัสเตอร์ใดที่กังวล ทางสมาคมอยากให้ผู้ประกอบการในพื้นที่สีส้มได้รับการดูแล เพราะถือว่าเสียเปรียบและเสียโอกาสทางธุรกิจ

หลังจากนี้ สมาคมจะประชาสัมพันธ์ร้านอาหารในทุกพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่สีส้ม ในเรื่องของการทำการประเมินตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านสาธารณสุข และมาตรการรักษาความสะอาดปลอดภัยป้องกันโรคโควิด-19 (ไทย สต๊อป โควิด) ให้มากขึ้น เพื่อเตรียมความพร้อม และสมาคมจะประสานกับกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และ ศบค.ให้ เมื่อรัฐบาลพิจารณาเปิดพื้นที่จะได้มีโอกาสเปิดทันที

อย่างไรก็ตาม โควิดสายพันธุ์โอมิครอนยังอยู่ ผู้ประกอบการร้านอาหารกังวลว่าลูกค้าอาจจะไม่กล้าออกมาใช้บริการ เพราะโอมิครอนนั้นมีลักษณะที่ติดต่อกันง่าย ดังนั้น ผู้ประกอบการร้านอาหารต้องตระหนัก โดยเฉพาะร้านที่เป็นพื้นที่ปิด อากาศถ่ายเทไม่สะดวก ต้องมีการดูแล หาทางช่วยระบายอากาศ หรือมีการทำความสะอาดที่ถี่ขึ้น ผู้ประกอบการก็ต้องช่วยกัน รักษามาตรฐาน ส่วนร้านไหนถ้าพบว่าดำเนินการหละหลวม ก็อาจจะช่วยไปเตือน

Advertisement

ขณะนี้กลุ่มคนธุรกิจร้านอาหารพยายามทำทุกอย่าง รักษามาตรการ มีความเข้มงวดตามที่ สธ.และ ศบค. กำหนด รู้สึกดีใจที่รัฐบาลไม่เหมารวมร้านอาหารเป็นคลัสเตอร์ที่เสี่ยงติดโควิด ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้ธุรกิจร้านอาหารได้ ขณะที่ประชาชนต้องตระหนักไม่เลือกไปสถานที่เสี่ยง ร้านอาหารไหนแออัด คนแน่นเกินไป ดูแล้วไม่ปลอดภัย ควรหลีกเลี่ยง ผู้บริโภคต้องป้องกันตนเอง รู้ตัวตลอดเวลา ยึดมาตรการป้องกันโควิดแบบครอบจักรวาลไว้ จะเป็นอีกทางให้ร้านค้ารู้ตนเองและตระหนักที่จะเข้มงวดในมาตรการด้วย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image