(9 ก.พ.59) เมื่อเวลา 13.30 น. พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นประธานประชุมคณะทำงานประสานงานเพื่อบูรณาการการป้องกันและปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา จังหวัดสระแก้ว พร้อมด้วย นายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว และหัวหน้าส่วนราชการในจังหวัดสระแก้วทุกหน่วยงาน กว่า 100 คน เข้าร่วมหารือ ที่ห้องประชุมบูรพา ศาลกลางจังหวัดสระแก้ว
รายงานระบุว่า ขณะประชุม เจ้าหน้าที่ได้เชิญสื่อมวลชนทุกแขนงออกจากห้องประชุม กระทั่งเวลา 15.30 น. จึงสิ้นสุดการประชุม จากนั้น จึงเชิญสื่อมวลชน เพื่อแถลงข่าวและสรุปได้ว่า สินค้าที่ละเมิดลิขสิทธิ์ จะต้องไม่มีในตลาดโรงเกลือ ถ้าหากมีจะดำเนินการตามกฎหมาย และจะทำให้เสร็จสิ้นภายใน เดือนเมษายน 2559 นี้
ด้านนายภัครธรณ์ กล่าวว่า จังหวัดสระแก้ว รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง มีด่านศุลกากร ด่านตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจ ทหาร ได้ดำเนินการเกี่ยวกับสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ มาระยะหนึ่งโดยได้นัดหารือว่าได้ดำเนินการไปถึงไหนแล้ว มีส่วนใดที่จะต้องปรับแผน และวางแผนหามาตรการ เพื่อให้การดำเนินการ ในเรื่องของการปราบปรามสินค้าที่ผิดกฎหมายให้เกิดผลเป็นรูปธรรมในห้วงระเวลาที่รวดเร็ว และทางสระแก้วได้ร่วมกับ กรมสอบสวนคดีพิเศษกับหน่วยงานต่างๆ ได้มีการประชุมวางแผน ในระยะสั้น เพื่อให้ประเทศของเรามีภาพลักษณ์ที่ดีและไม่ก่อให้เกิดปัญหา เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ การทำร้าย เจ้าหน้าที่ต่างๆ ไม่ให้เกิดขึ้นอีก อย่างเด็ดขาด ก็ได้ให้มีการประชุมร่วมกัน มีการตั้งคณะทำงานขึ้น ในการป้องกันปราบปราม สิ่งที่ผิดกฎหมาย ในตลาดโรงเกลือ และขยายผลไปทั่วประเทศ เพื่อเป็นตัวอย่างในการแก้ไขปัญหา มีการวางแผนในระยะสั้น ภายในระยะเวลา 2 เดือน ตั้งแต่เดือน กุมภาพันธ์ – เมษายน 2559 ไม่ให้มีสิ่งผิดกฎหมายอยู่ในตลาดโรงเกลือ พยายามผลักดัน ดำเนินการใช้มาตรการทางกฎหมาย แก้ไขปัญหาต่างๆ เหล่านี้ให้ ลุล่วงอย่างรวดเร็ว และดำเนินการอย่างต่อเนื่อง
“การวางแผนในระยะสั้น จะทำการกดดัน ในเรื่องการ ค้าขายสินค้าที่ผิดกฎหมาย มีทีมงานของจังหวัดสระแก้วและ ได้มอบหมายให้ รองผู้บังคับการ ตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้วร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ ศุลกากร สรรพากร ตำรวจทหาร ออกตรวจในตลาดโรงเกลือ กดดันไม่ให้มีการขายสินค้าที่ผิดกฎหมาย ส่วน ในระยะยาวมีการปรับเปลี่ยน เนื่องจากบริเวณตลาดโรงเกลือมีชาวกัมพูชาเดินทางเข้ามารับจ้างและขายของวันหนึ่งเกือบ 2 หมื่นคน ในระยะต่อไป จะทำความเข้าใจกับชาวกัมพูชาว่า สินค้าประเภทไหนบ้างที่ขายไม่ได้ ที่ผิดกฎหมาย ก็พยายามผลักดัน ให้เขาปรับเปลี่ยนนำสินค้าที่ถูกกฎหมายแทน ถ้าทำไม่ได้ก็ดำเนินการตามกฎหมาย ทางจังหวัดจะดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายใน 2 เดือน และต้องเรียบร้อย อีกอย่าง ทางจังหวัดสระแก้วได้ประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัดบันเตียเมียนเจย ให้เขาทำความเข้าใจกับชาวกัมพูชามีการพูดคุยกับ เจ้าของตลาด และผู้ค้าให้เข้าใจ สินค้าที่นำเข้ามาค้าขายในตลาดโรงเกลือ หลายอย่างผิดกฎหมาย เรามีคณะทำงนอยู่แล้ว ใน 2 เดือนจะไปดูว่า ผู้ค้าต่างๆ ทั้งหมด อันไหนผิดมีการทำข้อมูลเอาไว้ แล้วก็ดำเนินการ ให้เขาปรับตัวให้ถูกต้องตามกฎหมายต่อไป” นายภัครธรณ์ กล่าว
ด้าน พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวว่า ทางผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว รับเป็นประธานในการแก้ปัญหาเพื่อสะดวกในการดำเนินงาน และที่มีการสืบสวนจับกุม ในกรณีที่ ดีเอสไอ มาจับ เนื่องจากสถานทูตที่ฝรั่งเศส เน้นย้ำมาและนำข้อมูลให้ ดีเอสไอ และทำการสืบสวน ให้ชัดเจนแล้วก็ลงมาปฏิบัติตามหน้าที่ ส่วนคดีที่เกิดขึ้นแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คดีละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา และคดีอาญาที่ที่ทำร้ายร่างกาย ทำให้เสียทรัพย์ ตำรวจในจังหวัดรับดำเนินการและประสานงานร่วมกัน ในกรณีที่ มีผู้แอบอ้าง และกระทำผิดถ้ามีข้อมูลชัดเจนก็จะดำเนิน ตามกฏหมายและเคยมีมาแล้ว ในกรณีที่เจ้าหน้าที่ไม่ปฏิบัติ
“เมื่อ3-4 ปีที่แล้วทางดีเอสไอ เคยทำจับกุมมาแล้ว และในวันเกิดเหตุครั้งล่าสุด ทางดีเอสไอ มีหมายศาลได้มีการแสดงหมายถูกต้องก็ได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ ตามขั้นตอนกระบวนมีการจนจบขั้นตอน มีผู้ต้องหา มีของกลางขึ้นรถ ขบวนการชิงตัวถึงเกิดขึ้น ไม่ได้เข้าใจผิดและก็มาทำร้ายเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่แสดงตนตามหมายให้ทราบ ทุกขั้นตอน มารับทราบหมดและยอมรับแล้วว่าเป็นเจ้าของ ของกลางที่ทำผิดต่างๆ ลำเลียงของทั้งหมดขึ้นรถนำผู้ต้องหาขึ้นรถขบวนการแย่งชิงตัวจึงเกิดตามขึ้นมา ถ้าดูตามเทปเห็นชัดเจนว่า การแย่งตัวผู้ต้องหาแย่งสิ่งของอยู่ในรถของเจ้าหน้าที่ไม่ได้อยู่ที่ร้าน ถ้าอยู่ที่ร้านอาจเข้าใจผิดว่า มาหลอกลวงหรือเปล่า ดังนั้น เจ้าหน้าที่ทำถูกต้องตามกระบวนการทุกขั้นตอน” พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าว
