จ๊ากของแพง กว่าครึ่งประหยัดใช้จ่ายตรุษจีน เงินสะพัดต่ำกว่า 4 หมื่นล้าน ครั้งแรกรอบ 11 ปี

จ๊ากของแพง กว่าครึ่งประหยัดใช้จ่ายตรุษจีน เงินสะพัดต่ำกว่า 4 หมื่นล้าน ครั้งแรกรอบ 11 ปี

นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายของประชาชนและผู้ประกอบการในช่วงเทศกาลตรุษจีน ซึ่งปีนี้ตรงกับวันที่ 1 กุมภาพันธ์ โดยสำรวจช่วงวันที่ 17-24 มกราคม 2565 พบว่า สัดส่วนกลุ่มสำรวจระบุคงไหว้เจ้า สัดส่วนลดลงเหลือ 38.1% จากปีก่อนมีสัดส่วน 41.9% โดยกว่า 99% เห็นว่าบรรยากาศในช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้ คึกคักน้อยถึงเงียบเหงา และ ในกลุ่มสำรวจ 44.7 % ระบุใช้จ่ายลดลง อีก 18.8% ใช้จ่ายเท่าเดิม

ในกลุ่มนี้กว่า 82% ให้เหตุผลภาวะเศรษฐกิจแย่ลง รายได้ลดลง ลดค่าใช้จ่าย และมีภาระหนี้เพิ่ม ขณะที่ 36.5% ระบุใช้จ่ายเพิ่มขึ้น โดย 89.4% ระบุต้องใช้เงินเพิ่มจากสินค้ามีราคาแพงขึ้นมาก และ 61.8% ระบุของแพงกว่าปีก่อนมาก และเพียง 7% จ่ายเพิ่มเพราะเศรษฐกิจเริ่มดีขึ้น ดังนั้น จึงพบว่าทุกภูมิภาคตรุษจีนปีนี้ ลดทั้งปริมาณและมูลค่าการใช้จ่าย โดยเฉพาะการปรับขึ้นของราคาหมู ต้องลดปริมาณซื้อถึง 50% เป็นต้น ทำให้ยอดใช้จ่ายตรุษจีนปีนี้ทั้งซื้อของ ท่องเที่ยว และแต๊ะเอีย เฉลี่ยต่อคนอยู่ที่ 4,700 บาท ส่งผลให้เงินสะพัดช่วงตรุษจีนปีนี้ประมาณ 39,628 ล้านบาท ติดลบ 11.82% ซึ่งเป็นการติดลบต่อเนื่องปีที่ 3 มูลค่าต่ำสุดในรอบ 11 ปีนับจากปี 2554

“สำรวจสะท้อนให้เห็นว่าตรุษจีนปีนี้ซบเซา สาเหตุหลักคือของแพงขึ้น รายได้ไม่ได้เพิ่มขึ้น หนี้ครัวเรือนสูงขึ้น ถือเป็นปีที่ใช้จ่ายตรุษจีนประหยัดที่สุดจากที่ทำการสำรวจตั้งแต่ปี 2552 ซึ่งการติดลบปีนี้ต่างจากปีก่อน ที่ติดลบเพราะสถานการณ์การแพร่บาดของโควิด-19 ที่เป็นสาเหตุอันดับ1 ของปีก่อน แต่ปีนี้กังวลเรื่องปัญหาหนี้เพิ่ม รายได้ไม่ดี กำลังซื้อจึงไม่ดี ประกอบกับสินค้าและบริการแพงขึ้นมาก ต้องประหยัด ขณะที่กังวลต่อโอมิครอนระบาดต่ำกว่าปัจจัยปัญหาปากท้อง แต่เพื่อรักษาธรรมเนียม สังเกตุได้ว่าส่วนใหญ่ระบุเพิ่มการซื้อไข่เพิ่ม ทดแทนการซื้อโปรตีนหรือเนื้อสัตว์ที่มีราคาสูงมาก โดยเฉพาะการซื้อเพื่อบริโภคในชีวิตประจำวัน” นายธนวรรธน์ กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image