นักธุรกิจชี้กำลังซื้อฝืด วอนรัฐเปิดเวทีหารือภาคบริการ พลิกฟื้นกำลังซื้อและศก.ฐานราก

นักธุรกิจชี้กำลังซื้อฝืด วอนรัฐเปิดเวทีหารือภาคบริการ พลิกฟื้นกำลังซื้อและเศรษฐกิจฐานราก

นายธนากร คุปตจิตต์ เลขาธิการสมาคมธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไทย เปิดเผย “มติชน” ว่า ช่วงเทศกาลตรุษจีนที่จะมาถึงก็สามารถช่วยขับเคลื่อนด้านเศรษฐกิจในการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคได้บ้างระดับหนึ่ง อันเนื่องมาจากการที่ ศบค. ชุดใหญ่ มีมติให้มีการปรับปรุงแก้ไขพื้นที่ที่ควบคุมโควิดในแต่ละจังหวัด ซึ่งให้มีผลเมื่อวันที่ 24 มกราคมที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งได้ส่งผลให้พื้นที่ที่ถูกปรับเป็นพื้นที่เฝ้าระวังสูง (สีเหลือง) และพื้นที่นำร่องท่องเที่ยวเดิม 8 จังหวัด (สีฟ้า) ได้รับการผ่อนคลายสามารถทำกิจกรรมตามที่กำหนดได้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม ประชาชนหรือผู้บริโภค ยังไม่ค่อยกล้าจับจ่ายใช้สอยมากนัก เนื่องจากเจอแรงผลกระทบทางลบสองทาง

นายธนากร กล่าวต่อว่า โดยผลกระทบแรก คือ ความกังวลเรื่องโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ที่มีการระบาดแบบรวดเร็ว ทำให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น แม้จะไม่รุนแรง แต่ก็ยังมีประชาชนจำนวนมากลังเลต่อลักษณะและอันตรายของโอมิครอน ซึ่งขณะนี้เริ่มเห็นได้ว่าทางสาธารณสุขได้เริ่มออกมาแถลงและประชาสัมพันธ์บ้างแล้วกรณีของอาการของผู้ติดเชื้อโอมิครอน รวมทั้งจำนวนของผู้ฉีดวัคซีนเป็นไปตามแผนของสาธารณสุขอีกด้วย อีกทั้งการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2565 ซึ่งมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข (สธ.) เป็นประธาน มีผลจากการประชุมโดยพิจารณาเรื่องหนึ่งว่า “เห็นชอบหลักการแนวทางการพิจารณาโรคโควิด-19 ให้เป็นโรคประจำถิ่นเนื่องจากขณะนี้การระบาดมีทิศทางที่ดีขึ้น อยู่ภายใต้การควบคุม ไม่ได้มีลักษณะรุนแรงและเป็นไปตามหลักวิชาการ” ซึ่งความเห็นนี้จะช่วยส่งผลให้การประชุม ศบค. ควรพิจารณาทบทวนในมาตรการต่างๆ ที่มีขึ้นเพื่อให้เกิดความเหมาะสม ด้วยการผ่อนคลายมาตรการและเปิดโอกาสให้มีการทำกิจกรรมและประกอบธุรกิจได้เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ภาคธุรกิจเห็นด้วยที่มาตรการที่ผ่อนคลายจะต้องอยู่ภายใต้ข้อกำหนดที่รอบคอบและเหมาะสมทั้งสองด้าน คือ ด้านสาธารณสุขและเศรษฐกิจ

นายธนากรกล่าวอีกว่า ผลกระทบทางด้านที่สอง คือ ปัญหาของความผันผวนของราคาตลาดน้ำมัน ที่ส่งผลให้สินค้ามีการปรับราคา ประชาชนจึงมีการใช้เงินอย่างระมัดระวัง ประกอบกับในหลายๆ ท้องที่งดการทำกิจกรรมในช่วงเทศกาลตรุษจีนอีกด้วยครับ แต่โดยภาพรวมของอุตสาหกรรมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์น่าจะดีขึ้นบ้าง แต่ยังไม่เป็นไปตามที่คาด ก็คงต้องรอความหวังจากทางรัฐบาลในการที่จะพิจารณาทบทวนมาตรการเพื่อการผ่อนคลายดังกล่าวที่กล่าวมาแล้ว และคงต้องขอย้ำว่า ภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องมีความพร้อมและยินดีที่จะได้ประชุมร่วมกับภาครัฐ หรือตัวแทน ศบค. ในการที่จะให้ข้อมูลในประสบการณ์ของธุรกิจที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะธุรกิจด้านบริการ เพื่อรัฐบาลจะได้นำข้อมูลที่เป็นประโยชน์ไปใช้ประกอบการพิจารณาทบทวนกับมาตรการผ่อนคลายต่างๆ ต่อไป

“ตอนนี้หัวเมืองที่มีการปรับพื้นที่เป็นสีเหลืองและจังหวัดนำร่องท่องเที่ยว เริ่มดีขึ้น ถ้ามีการพิจารณาทบทวนปรีบพื้นที่จังหวัดอื่นจากสีส้ม คือ พื้นที่ควบคุม มาเป็น พื้นที่เฝ้าระวังสูง (สีเหลือง) พร้อมทบทวนผ่อนคลายมาตรการที่กำหนด จะสามารถช่วยเศรษฐกิจและการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น ภาคธุรกิจบริการมีโอกาสฟื้นตัวได้เร็ว พร้อมทั้งได้มีการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการท่องเที่ยวในการแข่งขันกับต่างประเทศได้มากขึ้นอีกด้วย” นายธนากร กล่าว

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image