บสย. ชู 3 ดี ช่วยขับเคลื่อนเอสเอ็มอี ตกค้าง 80% เข้าถึงเงินทุน ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล นำทาง

สิทธิกร ดิเรกสุนทร

บสย. ชู 3 ดี ช่วยขับเคลื่อนเอสเอ็มอี ตกค้าง 80% เข้าถึงเงินทุน ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล นำทาง

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 31 มกราคม 2565 นายสิทธิกร ดิเรกสุนทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไปบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) บรรยายพิเศษในงานสัมมนา “สู่ศักยภาพใหม่: Thailand 2022” รูปแบบไลฟ์สตรีมมิ่งผ่านเฟซบุ๊ก หัวข้อ “ศักยภาพใหม่ เพื่อธุรกิจใหม่” จัดขึ้นโดยหนังสือพิมพ์มติชน ว่า ศักยภาพใหม่ มี 4 มิติ มิติที่ 1 จำนวนผู้ประกอบการเอสเอ็มอี บสย.มีการประมาณการในฐานข้อมูลประมาณ 6 ล้านราย แบ่ง 3 ล้านรายแรกนั้นอยู่ในบัญชี และอีก 3 ล้านรายอยู่นอกบัญชี ซึ่งปีที่ผ่านมา บสย.ร่วมกับสถาบันการเงิน ได้เข้าไปช่วยผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในระบบ 3 ล้านรายแรกให้เข้าถึงแหล่งเงินทุน ได้ 22.35% ส่วนอีกเกือบ 80% ยังเข้าไม่ถึง

ดังนั้น ศักยภาพแรกเป็นการทำให้ผู้ประกอบการเข้าถึงแหล่งทุนจากสถานบันการเงิน ด้วยดิจิทัล เครดิต accelcer แต่อีก 3 ล้านรายที่อยู่นอกบัญชี ก็ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนจากสถาบันการเงินได้ มีปัญหาคล้ายในทุกกลุ่ม โดยเรียกว่า กลุ่มคือรายย่อย (ไมโคร) อาทิ กลุ่มอาชีพอิสระ กลุ่มที่มีรายได้น้อย กลุ่มเปราะบาง พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ ซึ่งไม่สามารถเข้าถึงแหล่งทุน เนื่องจากมีปัญหาเรื่องของหลักประกันในการขอสินเชื่อกับสถาบันการเงิน

สิทธิกร ดิเรกสุนทร

“บสย. จึงคิดว่าควรสร้างศักยภาพใหม่ให้กับประเทศไทย โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นตัวขับเคลื่อน เพื่อให้ทุกภาคส่วน เข้าถึงกลุ่มเหล่านี้ได้มากขึ้น และลึกขึ้นในเรื่องของจำนวนราย”

Advertisement

“ผมจึงเห็นว่า มีตัวขับเคลื่อนที่เรียกว่า 3ดี (D) คือ 1.ดิจิทัล วอลเล็ต (Digital Wallet) ในวันนี้มีอยู่ในมือของประชาชนทุกคนแล้ว ทุกธนาคารมีแอพพลิเคชั่นทางการเงิน และธุรกิจในระบบเศรษฐกิจมี ดิจิทัล วอลเล็ตหมด 2.ดิจิทัล เลนดิ้ง (Digital Lending) ทุกแพลตฟอร์มนั้นให้บริการสินเชื่อผ่านทางออนไลน์ แต่ทำในอีโค่ ซิสเต็มของตนเอง ทั้งนี้ ความสมบูรณ์จะต้องประกอบด้วย 3.ดิจิทัล เครดิต การันตี (Digital Credit Guarantee) จะเป็นส่วนเติมเต็ม ทำให้กลุ่มที่ไม่สามารถเข้าถึงสถาบันการเงินได้ ด้วยปัญหาเดิม คือ เรื่องหลักประกัน เพราะกลุ่มเหล่านี้มีปัญหาคล้ายกัน คือ บ้านติดจำนอง รถยนต์ยังผ่อนไม่หมด ธนาคารก็จะมองว่าเป็นอุปสรรคในการให้สินเชื่อ ดังนั้น 3ดี จะเป็นตัวขับเคลื่อนศักยภาพใหม่ ให้กับผู้ประกอบเอสเอ็มอี”

สิทธิกร ดิเรกสุนทร

Advertisement

“ลองดูที่งบประมาณของรัฐบาลที่นำไปช่วยประชาชนในการช่วยที่มีโควิด ไทยใช้ไปเยอะมาก ประมาณ 9.18 แสนล้านบาท มีประเภทของสวัสดิการเกิดขึ้นมากมาย และมีวอลเล็ตเกินขึ้นจำนวนมาก ซึ่งตัวขับเคลื่อน 3ดี ที่กล่าวไปข้างต้น จะเติบเต็มในเรื่องสวัสดิการของรัฐ และแก้ไขปัญหาเดิมๆ คือ เรื่อง หนี้นอกระบบ ในขณะนี้ไม่ใช้เพียงว่าพวกเราแก้ไขปัญหาเหล่านี้ ขอย้ำว่า ตัวขับเคลื่อน 3ดี จะเข้ามาปิดช่องว่าง ให้กับกลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอี ได้เข้าถึงแหล่งเงินทุนจากสถาบันการเงินมากขึ้น” นายสิทธิกรกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image