ธปท.เผยแบงก์เตรียมนำเทคโนโลยีชีวภาพทั้งลายนิ้วมือ เสียง ใบหน้าใช้ยืนยันตัวตน

นางวิเรขา สันตะพันธ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ ธปท.อยู่ระหว่างการเปิดรับฟังความคิดเห็นแนวทางการเข้าร่วมศูนย์ทดสอบและพัฒนานวัตกรรมที่นำเทคโนโลยีใหม่มาสนับสนุนการให้บริการทางการเงิน (เรกูลาทอรี่ แซนด์บ็อกซ์) และกรอบการกำกับดูแลธุรกรรมสินเชื่อระหว่างบุคคลกับบุคคล ผ่านระบบหรือเครือข่ายอิเล็กทรอนิกส์ (เพียร์ ทู เพียร์ เลนดิ้ง) เพื่อรองรับการขยายตัวของกลุ่มเทคโนโลยีการเงิน (ฟินเทค) ที่เพิ่มมากขึ้นและมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายมากขึ้น ซึ่งจะปิดรับในวันที่ 15 ตุลาคมนี้ ก่อนที่จะมีการสรุปข้อมูล และคาดว่าจะเริ่มเปิดดำเนินการในช่วงต้นปีหน้า โดยขณะนี้มีผู้ที่สนใจทำธุรกรรมสินเชื่อระหว่างบุคคลและบุคคลราว 20-30 ราย

สำหรับการนำเทคโนโลยีใหม่มาใช้ในระบบการเงินเพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการทำธุรกรรม อาทิ การใช้เทคโนโลยีชีวภาพ (ไบโอเมตริก) เช่น ลายนิ้วมือ เสียง ใบหน้า ม่านตา เป็นต้น มาใช้ในการยืนยันตัวตน ขณะนี้เริ่มมีธนาคารต่างชาติเข้ามาขออนุญาต ธปท. ในการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เหล่านี้มาใช้ในการทำธุรกรรมในไทยแล้ว ซึ่งกระบวนการให้พิจารณาของ ธปท. ใช้เวลาราว 30 วัน

นายเจมส์ รามา ปัทมินทรวิภาส ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานเครือข่ายสาขาและบริการดิจิตอล ธนาคารยูโอบี (ไทย) กล่าวว่า ธนาคารยูโอบียังไม่ได้เริ่มมีการนำไบโอเมตริกมาใช้ในการทำธุรกรรมการเงิน โดยต้องรอความชัดเจนจากธนาคารแม่ในสิงคโปร์ก่อน อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าต่อไปภาคการเงินไทยจะมีการนำไบโอเมตริกมาใช้ในการทำธุรกรรมการเงินจะเพิ่มมากขึ้นในระบบการเงินไทย ซึ่งเบื้องต้นอาจจะเป็นการทำธุรกรรมที่ไม่ซับซ้อนมากนัก เช่น การจ่ายบิล การโอนเงินไปยังบัญชีที่เคยโอนอยู่แล้ว เป็นต้น

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image