‘เจ้าท่า’ บูรณาการเตรียมเคลียร์พื้นที่ชายหาด ฟื้นฟูคืนสู่ระบบธรรมชาติ

‘เจ้าท่า’ บูรณาการเตรียมเคลียร์พื้นที่ชายหาด ฟื้นฟูคืนสู่ระบบธรรมชาติ

เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ นายภูริพัฒน์ ธีรกุลพิศุทธิ์ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า ด้านปลอดภัย เปิดเผยความคืบหน้าสถานการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลในทะเลระยอง ได้มีน้ำมันบางส่วนเคลื่อนเข้าสู่ชายฝั่งเมื่อวันที่ 29 มกราคม 2565 โดยกรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งดำเนินการจัดเก็บและยับยั้งคราบน้ำมันดิบทั้งในทะเลและบนชายฝั่ง จนถึงวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 รวมระยะเวลา 8 วัน ว่า สำหรับสถานการณ์ปัจจุบัน กรมเจ้าท่า พร้อมด้วย ทัพเรือภาคที่ 1 ศรชล.จังหวัดระยอง กรมควบคุมมลพิษ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ติดตามสถานการณ์ในทุกพื้นที่ ซี่งจากภาพถ่ายจากสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือจิสด้า และเรือตรวจการณ์เจ้าท่า 802,804,175 เรือเด่นสุทธิ และโดรนของสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ ลาดตระเวนพื้นที่ตั้งแต่ โซน A (บริเวณกองพันทหารราบที่ 7 ถึง ศูนย์วิจัยกรมประมง ระยะทาง 2 กิโลเมตร)

นายภูริพัฒน์ กล่าวว่า โซน B (บริเวณศูนย์วิจัยกรมประมง ถึง หาดแม่รำพึง ระยะทาง 2 กิโลเมตร)โซน C (บริเวณหาดแม่รำพึง ถึง ลานหินขาว ระยะทาง 2 กิโลเมตร)โซน D (บริเวณลานหินขาว ถึง เขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด ระยะทาง 2 กิโลเมตร) โซน E 1 (บริเวณเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด) และโซน E2 (บริเวณเกาะเสม็ด) ยังไม่พบคราบน้ำมันในทะเลและบริเวณชายฝั่งแต่อย่างใด โดยกรมเจ้าท่า กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กรมควบคุมมลพิษ อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด IESG และเครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน (ทสม.) ระยอง ได้หารือในเรื่องของการนำแผ่นดูดซับคราบน้ำมันขึ้นจากพื้นทราย เพื่อตรวจสอบคราบน้ำมันดิบและคืนพื้นที่ชายหาด ซี่งสถานการณ์แนวโน้มดีขึ้นโดยตลอด ขั้นตอน Beach Clean up และเตรียมเข้าสู่ระยะการฟื้นฟูชายหาด เพื่อเคลียร์พื้นที่ชายหาดคืนสู่ระบบธรรมชาติและเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ โดยหลักเกณฑ์การลดระดับสถานการณ์ฉุกเฉิน ไปสู่ระยะแผนฟื้นฟู ต้องไม่พบคราบน้ำมันใหม่ในทะเล คราบน้ำมันบนชายฝั่งในทุกโซน A-E คราบน้ำมัน ผลจากการสำรวจใต้น้ำ ในทุกระยะ 1 กิโลเมตร 3 กิโลเมตร 5 กิโลเมตร และในพื้นที่อ่อนไหว ระยะเวลา 3 วัน ติดต่อกัน

นายภูริพัฒน์ กล่าวว่า ในระยะฟื้นฟูจะมีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการฟื้นฟูและประเมินค่าความเสียหายต่อสภาพแวดล้อมอันเนื่องมาจากน้ำมัน อาศัยอำนาจตามข้อ 10 (5) และ (8) ของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน พ.ศ.2547 ประกอบกับข้อ 13 ของแผนป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมันแห่งชาติ คณะกรรมการป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน จะได้มีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการฟื้นฟูและประเมินค่าความเสียหายต่อสภาพแวดล้อมอันเนื่องมาจากน้ำมัน

Advertisement

นายภูริพัฒน์ กล่าวอีกว่า สำหรับอำนาจหน้าที่ คณะอนุกรรมการฯ จะประเมินค่าใช้จ่ายในการขจัดคราบน้ำมันของหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนที่เข้าร่วมปฏิบัติการ อีกทั้งความเสียหายของพื้นที่ชายฝั่ง และพื้นที่ใกล้เคียง ตลอดจนจัดทำแผนฟื้นฟูสภาพแวดล้อมของพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำมัน หรือจัดทำแผนป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมันแห่งชาติ เพื่อนำเสนอคณะกรรมการป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน เสนอขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี และแต่งตั้งคณะทำงานรับเรื่องราวร้องทุกข์ ค่าเสียหาย ค่าเสียโอกาส ในพื้นที่ที่เกิดความเสียหาย ตลอดจนติดตามผลการดำเนินการชดใช้ค่าเสียหาย การฟื้นฟูให้กลับสู่สภาพเดิมต่อไป

ทั้งนี้ จังหวัดระยอง ได้ดำเนินการจัดตั้งจุดรับเรื่องราวร้องทุกข์ กรณีพบคราบน้ำมัน ณ บริเวณชายหาด บ้านสบาย สบาย รีสอร์ท ตำบลตะพง อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง โดยมีหน่วยงานที่เข้าร่วมดำเนินการ ดังนี้
1.ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดระยอง
2.สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดระยอง
3.อำเภอเมืองระยอง
4.องค์การบริหารส่วนตำบลตะพง
5.บริษัท สตาร์ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน)
6.พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองระยอง

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image