น้ำมันโลกขึ้นเอาๆ กองทุนน้ำมันฯขยับกู้ 2 หมื่นล้าน เม.ย.ถ้าเกิน 95 เหรียญ กู้อีก 1 หมื่นล.

น้ำมันโลกขึ้นเอาๆ กองทุนน้ำมันฯขยับกู้ 2 หมื่นล้าน เม.ย.ถ้าเกิน 95 เหรียญ ต้องกู้อีก 1 หมื่นล.

นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) กล่าวถึงความคืบหน้าแผนการกู้เงินเสริมสภาพคล่องกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง วงเงิน 20,000 ล้านบาท ว่าเดิมกำหนดแผนการได้เงินกู้เข้ากองทุนฯเดือนมิถุนายนนี้ แต่ด้วยสถานการณ์ราคาน้ำมันที่ผันผวน แม้สิ้นฤดูหนาว แต่ความต้องการของโลกยังสูงเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังโควิด-19 คลี่คลาย และผลจากกลุ่มประเทศโอเปคพลัสคงกำลังการผลิต และผลจากวิกฤตการณ์ยูเครน จึงทำให้ราคาน้ำมันโลกพุ่งขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุด น้ำมันดิบเบรนท์เฉลี่ยระดับ 90 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลแล้ว ดังนั้น สกนช.จึงปรับร่นเวลาการได้เงินกู้เป็นเดือนเมษายนแทน เพื่อสอดรับกับเงินกองทุนที่มีอยู่ประมาณ 20,000 ล้าน ซึ่งฝากไว้กับกระทรวงการคลัง ติดลบประมาณ 14,000 ล้านบาท ขณะที่เงินไหลออกปัจจุบันประมาณ 7,000 ล้านบาท เงินดังกล่าวจึงจะหมดในช่วง 3 เดือนข้างหน้าพอดี อย่างไรก็ตาม ด้วยสถานการณ์ก็ต้องติดตามแบบวันต่อวันเช่นกัน

“หลังเปิดให้สถาบันการเงินเสนอแผนการปล่อยกู้มายัง สกนช. เบื้องต้นมี 3 ธนาคารที่เสนอแผนเข้ามาคือ กรุงไทย ออมสิน และกสิกรไทย ซึ่งตามขั้นตอนของธนาคารต้องเสนอคณะกรรมการ (บอร์ด) อนุมัติ สกนช.จึงอยู่ระหว่างแจ้งให้ธนาคารดำเนินการตามขั้นตอนภายในเดือนมีนาคมนี้ เพื่อกู้เงินภายในเมษายนนี้” นายวิศักดิ์กล่าว

นายวิศักดิ์กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม จากสมมุติฐานการตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร ส่งผลให้ต้องกู้เงิน 20,000 ล้านบาท เพื่อเสริมสภาพคล่องช่วงเดือนเมษายนนั้น มาจากประมาณการราคาน้ำมันโลกไม่เกิน 95 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล แต่หากราคาน้ำมันโลกขยับเกินราคาข้างต้น จะทำให้ระยะเวลาการดูแลดีเซลสั้นลงเหลือประมาณ 2 เดือนครึ่ง หากเป็นเช่นนั้นก็มีโอกาสที่เงินกู้ 20,000 ล้านบาท อาจไม่เพียงพอ และอาจต้องกู้เพิ่มอีก 10,000 ล้านบาท ตามกรอบการกู้เงินที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติไว้ที่ 30,000 ล้านบาท

Advertisement

นายวิศักดิ์กล่าวว่า สำหรับราคาขายปลีกน้ำมันในปัจจุบัน ราคาดีเซลแนะนำอยู่ที่ 29.94 บาทต่อลิตร โดยเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ เป็นวันแรกที่น้ำมันดีเซลทุกชนิด (บี7 บี10 และบี20) ปรับสูตรเหลือ บี5 มีผลถึงวันที่ 31 มีนาคม ทำให้ต้นทุนราคาดีเซลลดลงประมาณ 60 สตางค์ต่อลิตร ไม่ได้ทำให้ราคาขายปลีกดีเซลลดลง แต่จะไปเพิ่มค่าการตลาดน้ำมันดีเซลเป็น 1.24 บาทต่อลิตร เพราะจากเดิมต่ำมากเพียง 0.64 บาทต่อลิตร ส่วนราคาน้ำมันกลุ่มเบนซินขณะนี้ยังไม่มีมาตรการใดๆ ต้องรอให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เป็นผู้พิจารณา

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image