จุรินทร์จุดติด Soft Power เปิดงานแรก บิ๊กโลกเแห่ซื้อคอนเทนต์ไทย 815 ล้าน

จุรินทร์จุดติด Soft Power เปิดงานแรก บิ๊กโลกแห่ซื้อคอนเทนต์ไทย 815 ล้าน

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า หลังจากมอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เปิดเวทีเจรจาธุรกิจภาพยนตร์ และอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องในโครงการ Content Pitching ธุรกิจภาพยนตร์ และอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่อง ภายใต้นโยบายยุทธศาสตร์ Soft Power เมื่อวันที่ 27 มกราคมที่ผ่านมานั้น ล่าสุด กรมรายงานความสำเร็จ ทะลุเป้าที่ตั้งไว้ในการจัดงานแรกของปีนี้

“นับเป็นก้าวแรกของความสำเร็จในการผลักดัน ซอฟต์ เพาเวอร์ ผ่านภาพยนตร์ แอนิเมชั่น และดิจิทัลคอนเทนต์ของไทย ตามนโยบาย ปี’65 โดยผู้เจรจาจากบริษัทฝั่งไทยสามารถสร้างรายได้รวมกว่า 815 ล้าน” นายจุรินทร์กล่าว

ทั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกในการดึงผู้ให้บริการสตรีมมิ่งความบันเทิงชื่อดังอย่าง Netflix, WeTV, iQiyi และ VIU เจรจาการค้ากับผู้ประกอบการไทย 15 บริษัท โกยรายได้กว่า 815 ล้านบาท ซึ่งได้มอบนโยบายผลักดันให้ธุรกิจดิจิทัลคอนเทนต์ เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ตามแนวคิด Creative Economy และส่งเสริมให้ไทยเป็น Hub ของอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ ซึ่งเป็นนโยบายสืบเนื่องจากปี 2564 ที่ให้ไว้ และปีนี้ 2565 ให้มุ่งเน้นการส่งเสริม Soft Power ให้ไทยให้ผงาดได้ในตลาดโลก โดยได้มีการส่งเสริม และสร้างเครือข่าย ขยายโอกาสเผยแพร่ผลงานดังกล่าวสู่ตลาดต่างประเทศมากขึ้น ซึ่งนอกจากจะเป็นการส่งเสริมกลุ่มธุรกิจดิจิทัลคอนเทนต์แล้ว ยังเป็นการกระตุ้นการพัฒนาธุรกิจที่เกี่ยวข้องอื่นๆ เช่น อาหาร สถานที่ท่องเที่ยว วัฒนธรรม แหล่งวิถีชีวิต ที่เป็นเอกลักษณ์ของไทยอีกด้วย

นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ผู้ประกอบการดิจิทัลคอนเทนต์ไทยทั้ง 15 บริษัท ได้รับโอกาสในการนำเสนอผลงาน และบริการที่น่าสนใจให้กับผู้ให้บริการสตรีมมิ่งความบันเทิงชื่อดัง จนสามารถสร้างรายได้เข้าประเทศตามนโยบายรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ โดยคอนเทนต์ที่ได้รับความสนใจจากผู้ให้บริการสตรีมมิ่งความบันเทิงมากที่สุด 3 อันดับแรกคือ คอนเทนต์ทีวีซีรีส์ คอนเทนต์ภาพยนตร์ และคอนเทนต์แอนิเมชั่นซีรีส์

Advertisement

“แสดงให้เห็นว่า อุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ไทยภายใต้ยุทธศาสตร์ Soft Power แบบไทยมีศักยภาพมาก และเป็นที่สนใจของผู้นำเสนอความบันเทิงระดับโลก ทักษะความสามารถของคนไทยขึ้นชื่อทางด้านการผลิตคอนเทนท์อยู่แล้วเพียงแต่ต้องได้รับการส่งเสริม ดังนั้น ฝ่ายส่งเสริมอย่างกระทรวงพาณิชย์โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศมีหน้าที่จัดเวทีพบปะ แม้ว่าจะอยู่ในสถานการณ์โควิด แต่นั่นคือโอกาส เพราะในภาวะเช่นนี้ประชาชนมีความเครียดต้องการเสพความบันเทิง และ Streaming ความบันเทิงอย่าง Netflix, WeTV, iQiyi และ VIU ปัจจุบันเป็นตลาดใหญ่ที่คนทั่วโลกกำลังนิยม ประกอบกับเทรนด์ในปัจจุบันคนอยู่บ้านมากขึ้น จึงเป็นโอกาสของผู้ประกอบการโดยเฉพาะผู้ที่มีความคิดสร้างสรรค์ และผู้ให้บริการสตรีมมิ่งความบันเทิง เหล่านี้ก็มีความต้องการผลงานของผู้ประกอบการไทย” นางมัลลิกากล่าว

จากรายงานจากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ระบุว่า นโยบาย Soft Power เป็นโอกาสให้ผู้ผลิตคอนเทนต์ทุกขนาดได้เข้าถึง และนำเสนอผลงานที่มีคุณสมบัติที่เหมาะสมกับผู้ให้บริการสตรีมมิ่งความบันเทิงในระดับนานาชาติ ทั้งยังช่วยเพิ่มศักยภาพให้ผู้ผลิตได้มีความรู้ความเข้าใจ และผลิตผลงานให้ได้ตามมาตรฐานที่ตรงกับความต้องการของตลาดนานาชาติอีกด้วย โดยนอกจากการจัดเวทีการเจรจาการค้าแล้ว กระทรวงพาณิชย์มุ่งมั่นที่จะสนับสนุนอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ในรูปแบบอื่นๆ เช่น การขยายโอกาสในการดำเนินธุรกิจทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศผ่านช่องทางออนไลน์ ที่มีการผสมผสานเอาเอกลักษณ์ อัตลักษณ์ที่สำคัญของไทย เช่น ศิลปะ วัฒนธรรม อาหารไทย วิถีชีวิต เข้าไปในผลงานนำเสนอให้กับผู้ซื้อที่มีกำลังซื้อจากต่างประเทศ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image