จับตาขึ้นราคาแอลพีจีขั้นบันได สิ้นปี ปชช.ควักเพิ่มถังละ 45 บาท
ความคืบหน้ากรณีกระทรวงพลังงานยอมรับว่าสถานการณ์กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงปัจจุบันที่ติดลบ 16,052 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญชีน้ำมัน 9,166 ล้านบาท บัญชีแอลพีจีติดลบ 25,218 ล้านบาท ณ วันที่ 6 ก.พ.นั้น อาจไม่สามารถดูแลราคาแอลพีจี (ก๊าซหุงต้ม) ได้ โดยเตรียมนำเงินกองทุนน้ำมันฯที่ทีอยู่มาดูแลราคาน้ำมันเป็นหลัก โดยเฉพาะน้ำมันดีเซลที่ต้องตรึงราคาไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร
ซึ่งปัจจุบันกองทุนน้ำมันฯอุดหนุนอยู่ลิตรละ 3.79 บาท และแม้กองทุนน้ำมันฯจะกู้เงิน 20,000 ล้านบาท มาดูแล ภายใต้กรอบวงเงินที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ไว้ 30,000 ล้านบาท แต่อาจไม่เพียงพอ
ดังนั้น กระทรวงจึงเตรียมปรับขึ้นราคาแอลพีจีแบบขึ้นบันได หลังตรึงไว้ที่ 318 บาทต่อถัง 15 กก. มานานกว่า 2 ปี และจะสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคมนี้ เพราะที่ผ่านมากระทรวงพลังงานอุดหนุนราคาแอลพีจีใช้เงินกองทุนอุดหนุนไปแล้วกว่า 25,000 ล้านบาท โดยราคาจริงปัจจุบันอยู่ที่ 432 บาทต่อถัง 15 กก.
โดยแนวทางเบื้องต้นที่สำนักงานบริหารนโยบายพลังงาน (สนพ.) ศึกษาไว้จะปรับขึ้นแบบขั้นบันได 3 ระดับ หรือ ไตรมาสละ 1 บาทต่อ กก. ถึงสิ้นปี 2565 ซึ่งการปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้มทุก 1 บาทต่อถัง 15 กก. จะช่วยลดภาระการอุดหนุนกองทุนได้ประมาณ 270-280 บาท/เดือน
สำหรับแนวทางขึ้นราคาแบบขั้นบันได ประกอบด้วย
1.หากขึ้นราคาเดือนเมษายน-มิถุนายน ขึ้น กก.ละ 1 บาท จะรวมเป็นขึ้นถังละ 15 บาท ราคาจะขยับเป็น 333 บาทต่อถัง 15 กก.
2.หากขึ้นราคาเดือนกรกฎาคม-กันยายน ขึ้นอีก กก.ละ 1 บาท จะรวมเป็นขึ้นถังละ 30 บาท ราคาจะขยับเป็น 348 บาทต่อถัง 15 กก.
3.หากขึ้นราคาเดือนตุลาคม-ธันวาคม ขึ้นอีก กก.ละ 1 บาท จะรวมเป็นขึ้นถังละ 45 บาท ราคาจะขยับเป็น 363 บาทต่อถัง 15 กก.
ทั้งนี้ จากแนวทางการขึ้นราคาแบบขั้นบันได ส่งผลให้กระทรวงพลังงานยังต้องดูแลส่วนต่างที่ต้องอุดหนุนอยู่ ดังนั้นกระทรวงพลังงานจึงเตรียมหารือสำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ เพื่อจัดหาแหล่งเงินเข้ามาเสริมสภาพคล่องในการดูแลโครงสร้างพลังงานทั้งระบบ รวมทั้งอุดหนุนราคาก๊าซหุงต้มสำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการของรัฐ 13.5 ล้านคน เพิ่มเติมจากกระทรวงการคลังด้วย
โดยปัจจุบัน นโยบายการอุดหนุนราคาก๊าซหุงต้มสำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิรการของรัฐ 13.5 ล้านคน กระทรวงการคลังอุดหนุนอยู่ที่ 45 บาทต่อ 3 เดือนนั้น กระทรวงพลังงานจะหางบประมาณเพิ่มเติมมาอุดหนุนอีก 55 บาทต่อ 3 เดือน รวมเป็นรัฐอุดหนุน 100 บาทต่อ 3 เดือน คาดว่าจะมีความชัดเจนช่วงกลาง-ปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้
อย่างไรก็ตาม แนวทางทั้งหมดนี้ยังเป็นเพียงข้อเสนอ ยังไม่ผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ที่มี นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน หากราคาพลังงาน ณ เดือนมีนาคม 2565 เป็นช่วงขาลง ก็มีความเป็นไปได้ที่รัฐบาลอาจกลับมามีนโยบายตรึงราคาอีกครั้ง
