ข่าวดี! วอร์รูมพาณิชย์ ยันหมู-ไก่-ปาล์ม ราคาเริ่มลง สั่งมอนิเตอร์ผลกระทบจากน้ำมัน-แก๊สหุงต้ม

วอร์รูมพาณิชย์ ยันหมู-ไก่-ปาล์ม ราคาเริ่มลง สั่งมอนิเตอร์ผลกระทบจากน้ำมัน-แก๊สหุงต้ม

เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ที่กระทรวงพาณิชย์ นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมระบบทางไกลของคณะทำงานกำกับติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าแก้ไขปัญหาและดำเนินคดีกับผู้ฝ่าฝืนและกระทำความผิดตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง (วอร์รูม) ว่า

จากการติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าที่เฝ้าระวังช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่า สินค้าบางรายการเริ่มมีราคาทรงตัวและบางชนิดลดลง อาทิ

เนื้อหมู ราคาจำหน่ายหมูเนื้อแดง ส่วนสะโพก ไหล่ ไม่รวมหมูเนื้อแดงปรุงแต่ง อยู่ที่กิโลกรัม (กก.) ละ 164-170 บาท ลดจากสัปดาห์ก่อน (วันที่ 30 ม.ค.) ที่ราคาเฉลี่ยทั้งประเทศ กก.ละ 187 บาท ตอนนี้เฉลี่ยทั้งประเทศ กก.ละ 175 บาท

เนื้อไก่ ราคาเริ่มทรงตัว ราคาจำหน่ายในห้าง ไก่เนื้อน่องติดสะโพก กก.ละ 65 บาท ตลาดสดเฉลี่ยอยู่ที่ กก.ละ 70-75 บาท คาดว่าแนวโน้มราคาทรงตัวอีกระยะหนึ่ง เพราะต้นทุนเลี้ยงอื่นๆยังคงที่

Advertisement

ขณะที่ส่วน น้ำมันพืชปาล์ม แนวโน้มเริ่มลดลง เพราะผลปาล์มสดจะเริ่มออกสู่มากขึ้นในเดือนมีนาคมนี้เป็นต้นไป แต่ราคาย้ำมันปาล์มจะทรงตัวระดับนี้อีกประมาณ 2 สัปดาห์ เนื่องจากยังเป็นสต๊อกเก่าที่ราคาต้นทุนสูง โดยราคาที่สำรวจจากร้านสะดวกซื้อ อยู่ที่ขวด(ลิตร)ละ 64-65 บาท และในห้างขวดละ 61-62 บาท

ขณะที่ ผักสด ราคาจะผันผวนตามชนิดของผักตามฤดูกาล แหล่งผลิต และต้นทุนค่าขนส่งเป็นตัวแปร แต่ตามรับรายงานขณะนี้ราคาผักไม่น่าจะสูงไปกว่านี้ ถ้าไม่ได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติ ส่วนสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไป ราคาทรงตัว ยกเว้นภาคใต้ ราคาอาจสูงกว่าภาคอื่นเล็กน้อย เพราะมีต้นทุนค่าขนส่งกับจากระยะทางที่ไกลกว่า

นายบุณยฤทธิ์ กล่าวว่า ที่ประชุมยังได้รับทราบผลการจัดชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจออกตรวจสอบสถานการณ์ราคาสินค้าทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โดยในกรุงเทพฯ มี 55 ชุด และภูมิภาคทุกจังหวัด

Advertisement

ซึ่งใน กรุงเทพฯ ได้ตรวจสอบตลาดสด 103 แห่ง ห้างค้าส่งค้าปลีก 101 แห่ง และในต่างจังหวัดก็ตรวจสอบทั้งตลาดสด และห้างเช่นเดียวกัน

โดยรายที่พบการกระทำผิดกฎหมาย เช่น ไม่ปิดป้ายแสดงราคา ขายเกินราคา ได้ดำเนินการตามกฎหมายแล้ว ส่วนผลการตรวจสอบสต๊อกของห้องเย็นและโรงเชือด ตามประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ที่กำหนดให้การเก็นเนื้อสุกรตั้งแต่ 5,000 กก.ขึ้นไป ต้องแจ้งปริมาณการเก็บทุกสัปดาห์ ตามข้อมูลจากกรมปศุสัตว์ว่ามีห้องเย็น โรงเชือด 511 ราย แต่มีผู้ที่แจ้ง 404 ราย เพราะเก็บเกิน 5,000 กก. แต่กระทรวงพาณิชย์เน้นเข้าตรวจทุกแห่งทั้งที่เก็บเกิน และไม่เกิน รวมตรวจสอบ 616 ราย โดยส่วน 404 ราย พบสต๊อกเนื้อหมู 15.5 ล้านกก.

ขณะที่รวม 616 ราย มีเนื้อหมูรวม 19.5 ล้าน กก. ซึ่งในนี้พบการกระทำผิด ไม่แจ้งปริมาณตามที่กฎหมายกำหนด และผิดพ.ร.บ.คลังสินค้า ไซโลและห้องเย็น 12 ราย มีการส่งฟ้องและมีคำพิพากษาแล้ว 3 ราย คือ 1.ไม่แจ้งข้อมูลตามประกาศ กกร. 1 ราย ศาลสั่งปรับ 1 หมื่นบาท 2.ไม่แจ้งข้อมูล ปรับ 5,000 บาท และปรับรายวันอีกวันละ 500 บาท รวม 13 วัน มีโทษจำคุกด้วย แต่รอลงอาญา 1 ปี 3.ปรับสูงสุด 1 หมื่นบาท ลดกึ่งหนึ่ง และปรับรายวันอีกวันละ 500 บาท รวม 10 วัน ส่วนที่เหลืออีก 9 ราย อยู่ระหว่างดำเนินคดีและส่งฟ้อง

นายบุณยฤทธิ์ กล่าวว่า วอร์รูมได้มอบหมายให้มีการติดตามสถานการณ์สินค้าอุปโภคบริโภคอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพ เช่น ซอสปรุงรส เครื่องใช้ไฟฟ้า บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป สินค้าที่เป็นปัจจัยการผลิต เช่น ปุ๋ยเคมี ยาฆ่าแมลง อาหารสัตว์ และสินค้าเกษตรสำคัญ

รวมถึงติดตามปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการปรับลดหรือขึ้นของสินค้า เช่น ราคาน้ำมัน ก๊าซหุงต้ม และติดตามสถานการณ์เงินเฟ้ออย่างใกล้ชิด

ทั้งนี้ ในเบื้องต้นกรมการค้าภายในกำลังติดตามตรวจสอบโครงสร้างต้นทุนสินค้าต่อราคาพลังงานที่สูงขึ้น ซึ่งเบื้องต้นราคาพลังงานจะมีผลกระทบต่อการขนส่งในสินค้าแตกต่างกันไป ขณะที่รัฐบาลเองก็มีมาตรการดูแล รวมถึงหากราคาแก๊สหุงต้มที่จะขยับขึ้น

เมื่อดูส่วนต่างราคาที่ขึ้นกับการปรุงอาหารจานด่วน ยังไม่ได้รับผลกระทบจนสมควรต้องมีการขยับเมนูอาหาร ซึ่้งกระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภายใน ก็จะติดตามและตรวจสอบกำชับผู้ประกอบการในการดูแลราคาสินค้า และเอกชนยังให้ความร่วมมือในการตรึงราคาสินค้า

นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image