หุ้นไทยวันที่12ต.ค.ทำดัชนีต่ำสุดรอบ5เดือน ปิดที่1,406.18จุด-3วันทำการลดแล้วรวม98.16จุด

แฟ้มภาพ

ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวดัชนีหุ้นไทยวันที่ 12 ตุลาคม ว่า เปิดการซื้อขายดัชนีร่วงแรงและซื้อขายในแดนลบตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะในช่วงเปิดการซื้อขายช่วงบ่ายดัชนีปักหัวลงไปทำจุดต่ำสุดของวันที่ 1,343.13 จุด ลดลง 99.08 จุด หรือ 6.87% ซึ่งใกล้กับระดับมาตรการหยุดการซื้อขายเป็นการชั่วคราวกรณีเซอร์กิตเบรกเกอร์ที่จะหยุดการซื้อขายทันทีที่ตลาดหุ้นลดลง 10% อย่างไรก็ตาม ไม่นานหลังจากนั้นดัชนีหุ้นไทยปรับขึ้นและมีแรงซื้อขายเข้ามาหนาแน่น ปิดวันที่ 1,406.18 จุด ลดลง 36.03 จุด หรือ 2.50% เป็นดัชนีต่ำสุดในรอบเกือบ 5 เดือน

สำหรับภาวะหุ้นไทยโดยรวมนั้น พบว่าตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคมดัชนีหุ้นไทยปรับลดลงต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 4 วันทำการ คือวันที่ 7 ตุลาคม ปิดที่ 1,504.34 จุด ลดลง 9.52 จุด หรือ 0.63% วันที่ 10 ตุลาคม ปิดที่ 1,457.02 จุด ลดลง 47.32 จุด หรือ 3.15% วันที่ 11 ตุลาคม ปิดที่ 1,422.21 จุด ลดลง 14.81 จุด หรือ 1.02 % และวันที่ 12 ตุลาคม 1,406.18 จุด ลดลง 36.03 จุด หรือ 2.50% รวมตั้งแต่เปิดสัปดาห์นี้ ดัชนีหุ้นไทยปรับลงไปแล้ว 98.16 จุด หรือ 6.53% แต่หากเทียบตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันดัชนีหุ้นไทยยังให้ผลตอบแทนเป็นบวกที่ 9.17% เพิ่มขึ้นจากต้นปีประมาณ 118.16 จุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังดัชนีหุ้นปรับลงแรงระหว่างวัน ทำให้มีนักลงทุนบางส่วนสอบถามถึงการหยุดการซื้อขายเป็นการชั่วคราวกรณี (เซอร์กิตเบรกเกอร์) (Circuit Breaker) ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ซึ่งได้รับคำชี้แจงจาก ตลท.ว่า กรณีที่สภาวะการซื้อขายมีความผันผวนรุนแรง ราคาหลักทรัพย์โดยรวมเปลี่ยนแปลงลดลงมาก เพื่อให้นักลงทุนมีเวลาในการตรวจสอบข้อมูลข่าวสารที่มีผลกระทบต่อการลงทุนอย่างครบถ้วน ตลาดหลักทรัพย์จะหยุดทำการซื้อขายโดยอัตโนมัติเป็นการชั่วคราว ตามหลักเกณฑ์ดังนี้

ครั้งที่ 1 เมื่อดัชนีหุ้นไทยเปลี่ยนแปลงลดลงถึง 10% ของค่าดัชนีปิดในวันทำการก่อนหน้าตลาดหลักทรัพย์ จะพักการซื้อขายหลักทรัพย์ทั้งหมดเป็นเวลา 30 นาที และครั้งที่ 2 เมื่อดัชนีหุ้นไทยเปลี่ยนแปลงลดลงถึง 20% (ลดลงอีก 10%) ของค่าดัชนีปิดในวันทำการก่อนหน้าตลาดหลักทรัพย์จะพักการซื้อขายหลักทรัพย์ทั้งหมดเป็นเวลา 1 ชั่วโมง

Advertisement

และหลังจากการทำงานครั้งที่ 2 ของมาตรการเซอร์กิตเบรกเกอร์แล้วตลาดหลักทรัพย์จะเปิดให้ทำการซื้อขายต่อไป จนถึงเวลาปิดทำการตามปกติโดยไม่มีการหยุดพักการซื้อขายอีก หากระยะเวลาในรอบการซื้อขายที่เซอร์กิตเบรกเกอร์ทำงานนั้นเหลือไม่ถึง 30 นาที หรือ 1 ชั่วโมง ก็ให้หยุดพักการซื้อขายเพียงระยะเวลาที่เหลือในรอบการซื้อขายนั้นแล้วเปิดให้ซื้อขายหลักทรัพย์ได้ตามปกติในรอบการซื้อขายถัดไป

นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หุ้นไทยที่ปรับลงในช่วงนี้มาจากหลายสาเหตุ ทั้งเหตุการณ์ในประเทศและต่างประเทศ โดยมองกรอบแนวรับทางเทคนิคอยู่ที่ 1,350-1,360 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,400 จุด ส่วนแนวรับในเชิงพื้นฐานอยู่ที่ 1,300 จุดบนอัตราปิดต่อกำไรต่อหุ้น (พี/อี) ที่ประมาณ 11.2 เท่า ในระดับราคานี้มีหุ้นหลายตัวที่มีระดับราคาที่น่าสนใจ อีกทั้งในส่วนทั้งปัจจัยทางเทคนิคและปัจจัยเชิงพื้นฐานราคาหุ้นมีโอกาสปรับลงจากนี้ค่อนข้างจำกัด แต่ยังไม่แนะนำให้เข้าซื้อช่วงนี้ แม้จะมีแรงฟื้นตัวระยะสั้นบ้าง แต่เชื่อว่าจะมีแรงบังคับขายจากบัญชีมาร์จิ้นหรือบัญชีสินเชื่อเพื่อซื้อหลักทรัพย์ ภาวะที่น่าสนใจซื้อคือดัชนีต้องขึ้นไปยืนได้ที่ประมาณ 1,400 จุด กลุ่มที่น่าสนใจคือกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทอ่อนค่า สำหรับนักลงทุนที่มีหุ้นอยู่ในมือแนะนำให้รอดูสถานการณ์ก่อน

 

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image