สภาอุตฯ ชี้ภาษีดีเซลลดช่วยชะลอราคาสินค้า
นายเกรียงไกร เธียรนุกุล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวถึงมาตรการลดอัตราภาษีสรรพาสามิตน้ำมันดีเซล สำหรับเนื้อน้ำมันลง 2 บาทว่า ช่วยชะลอการขึ้นราคาสินค้าได้ จากสถานการณ์ปัจจุบันราคาน้ำมันตามตลาดโลกเพิ่มขึ้นค่อนข้างเร็ว ส่งผลต่อราคาน้ำมันขายปลีกในไทยแพงขึ้น นอกจากนี้ยังส่งผลกระทบไปถึงภาคโลจิสติกส์ ภาคการขนส่ง และค่าพลังงานไฟฟ้าที่จะปรับตัวขึ้น ทำให้สินค้าทุกอย่างเตรียมจะปรับตัวขึ้นตาม ทั้งนี้การที่รัฐบาลใช้มาตรการลดภาษีสรรพสามิตลง จำนวน 3 บาทต่อลิตร แบ่งเป็น 2 บาทลดราคาน้ำมันดีเซลจริง และอีก 1 บาทไปเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ดังนั้นใน 2 บาทที่ลดราคาน้ำมัน จะช่วยชะลอบรรดาต้นทุนที่กำลังจะขึ้นไป หรือที่ผู้ประกอบการเตรียมจะปรับราคาสินค้า ชะลอเวลาไปได้ ตามมาตรการของรัฐบาลที่ระบุว่าเป็นเวลา 3 เดือน(มีนาคม-พฤษภาคม2565)
ในช่วง 3 เดือนข้างหน้า ต้องติดตามราคาน้ำมันในตลาดโลก ว่ามีแนวโน้มหยุดหรือขึ้นต่อ ปัจจุบันราคาน้ำมันระดับ 90-94 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล หลายฝ่ายคาดว่าด้วยสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียกับยูเครน ถ้าไม่มีสงคราม หรือไม่มีการบุกรุกกัน เจรจากันได้ จะทำให้สถานการณ์คลี่คลายลง ลดแรงกดดัน อาจจะทำให้น้ำมันไม่สูงไปกว่านี้ แต่ถ้าเจรจาไม่สำเร็จ มีความรุนแรง เกิดสงครามขึ้น จะทำให้ราคาน้ำมันตลาดโลกพุ่งสูง และอาจจะทะลุ 100 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรลอย่างรวดเร็ว ซึ่งรัฐบาลจำเป็นต้องหามาตรการอื่นๆ หรือต้องมีการขยายเวลามาตรการลดภาษีเพิ่มไปมากกว่า 3 เดือน หรือ ลดอัตราภาษีน้ำมัน มากกว่า 3 บาทต่อลิตร โดยขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงของราคาน้ำมัน
ราคาน้ำมันโลกที่กำลังเพิ่มสูงขึ้น หรือเรื่องสงครามระหว่างประเทศ เป็นสิงที่เกิดขึ้นภายนอกประเทศทั้งหมด ทำให้ควบคุมไม่ได้ แต่มาตรการลดภาษีน้ำมัน เป็นมาตรการระยะสั้น ใช้แก้ไขเร่งด่วน ซึ่งรัฐบาลควบคุมได้ เดิมอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลเก็บอยู่ที่ 5.99 บาทต่อลิตร เมื่อลดไป 3 บาท ยังมีช่องว่างอีก 2.99 บาทที่สามารถลดได้อีก จะช่วยชะลอการขึ้นราคาของสินค้า รวมถึงขึ้นอยู่กับสายป่านของผู้ประกอบการ และนโยบายการเงินการคลังของรัฐบาลด้วย
ส่วนราคาน้ำมันเบนซิน อาจจะถูกมองว่าเป็นสินค้ากึ่งฟุ่มเฟือย ผู้ใช้ต้องมีรถยนต์ แสดงให้เห็นว่ามีฐานะ เปรียบเหมือน เครื่องประดับ นาฬิกาหรู ดังนั้นรัฐบาลจึงให้ความสำคัญกับการตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่เกิน 30 บาทต่อลิตรมากกว่า เพราะมีผลกระทบในวงกว้าง ตั้งแต่โรงงานอุตสาหกรรม การขนส่ง รถบรรทุกสินค้า ซึ่งจะส่งผลต่อค่าครองชีพของประชาชนอย่างมาก
