รัสเซีย–ยูเครนปะทุหนัก ทุบหุ้นไทยลงลึกกว่า 21 จุด ก่อนได้แรงซื้อหุ้นพลังงาน–รพ. ดึงดัชนีคืน
วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานภาวะหุ้นวันนี้ว่า หุ้นเคลื่อนไหวในแดนลบ โดยเปิดตลาดภาคเช้ามาที่ระดับ 1,694.32 จุด ก่อนปิดตลาดภาคบ่ายที่ระดับ 1,691.12 จุด ปรับลดลง 3.20 จุด หรือ 0.19% โดยดัชนีทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1,691.62 จุด และทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,673.31 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ 93,075 ล้านบาท
โดยนายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) หยวนต้า (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทย เห็นดัชนีปรับลดลงรุนแรงในช่วงแรกของการเปิดการซื้อขายกว่า 21 จุด ก่อนจะทยอยปรับลดช่วงการลบของดัชนีลงในภาคบ่าย และช่วงท้ายๆ ตลาด เนื่องจากได้แรงซื้อหุ้นกลุ่มพลังงานเข้ามาตามทิศทางราคาน้ำมันที่ปรับตัวมากขึ้น รวมถึงหุ้นกลุ่มโรงพยาบาล ที่กลับขึ้นมาจากสถานการณ์การระบาดโควิด-19 ในประเทศที่กลับมารุนแรงมากขึ้นอีกครั้ง โดยเห็นผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายวันปรับขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่ (นิวไฮ) จึงเป็นแรงสนับสนุนให้ดัชนีหุ้นไทยปรับขึ้นมา ส่วนแรงขายหลักๆ อยู่ในหุ้นขนาดใหญ่ หรือในหุ้นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการเปิดเมืองใหม่ (รีโอเพนนิ่ง) อาทิ หุ้นแบงก์ แต่เริ่มลดแรงขายลงในช่วงบ่าย เนื่องจากหลังจากตลาดหุ้นรัสเซีย และยุโรป เปิดมามีแรงซื้อคืน เนื่องจากธนาคารกลางรัสเซียได้ให้คำมั่นว่า จะพยายามใช้เครื่องมือที่มีรักสาเสถียรภาพของตลาดเงินมากที่สุด ทำให้มีแรงซื้อคืนกลับเข้ามาในระยะสั้น
“ขณะนี้ปัจจัยความไม่แน่นอนของรัสเซียและยูเครน ถือว่ามีน้ำหนักต่อตลาดหุ้นมากที่สุด แต่เนื่องจากการค้าขายของไทยเกี่ยวข้องกับรัสเซียค่อนข้างน้อย แม้มีผลกระทบต่อการท่องเที่ยวไทยบ้าง แต่ปี 2565 ก็ไม่ได้เห็นการท่องเที่ยวสะพัดมากเท่าที่ควร ผลกระทบโดยตรงจึงไม่ได้มากนัก แต่ผลกระทบในเชิงของบรรยากาศมากกว่า ซึ่งต้องติดตามต่อไป เนื่องจากจังหวะที่หุ้นไทยพักฐานลงมาสองวันติดเป็นผลจากปัจจัยความตึงเครียดรัสเซียและยูเครนเป็นหลัก” นายณัฐพลกล่าว
นายณัฐพลกล่าวว่า ทิศทางตลาดหุ้นในวันต่อไปนั้นน่าจะเห็นจังหวะการดีดตัว (รีบาวด์) กลับขึ้นไปได้ เนื่องจากตลาดหุ้นไทยพักฐานลงมาเข้าสู่แนวรับเรียบร้อยแล้ว โดยให้แนวต้านระดับ 1,700 จุด และถัดไปที่ 1,710 จุด แนวรับอยู่ที่1,680 จุด ซึ่งเชื่อว่ายังสามารถทำงานได้ดีอยู่ โดยหุ้นที่ยังสามารถเล่นได้อยู่ เป็นหุ้นที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครนจำกัด ได้แก่ กลุ่มโดเมสติก หรือหุ้นที่ได้ประโยชน์จากเศรษฐกิจในประเทศกลุ่มที่คาดหวังผลประกอบการไตรมาส 4/2564 ออกมาดี และได้อานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นใช้รถไฟฟ้า (อีวี) ของรัฐบาล ได้แก่ หุ้นโอสถสภา แม็คโคร ดีแทค และอินเตอร์ไฮด์ (ไอเอชแอล)
