‘เอเชีย กรีน’ อวดกำไรปี 64 โตพุ่ง 158% แตะ 638 ล้านบาท จ่อปันผล “หุ้น-เงินสด” 0.2695 บาทต่อหุ้น

เอเชีย กรีน’ อวดกำไรปี 64 โตพุ่ง 158% แตะ 638 ล้านบาท จ่อปันผล “หุ้นเงินสด” 0.2695 บาทต่อหุ้น  

นายพนม ควรสถาพร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอเชีย กรีน เอนเนอจี จำกัด (มหาชน) (AGE) ผู้จัดจำหน่ายถ่านหินบิทูมินัส(ถ่านหินสะอาด) และผู้ให้บริการด้านโลจิสติสก์แบบครบวงจร ขนส่งทางน้ำ-ทางบก-ท่าเรือ-คลังสินค้า แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ถึงภาพรวมผลการดำเนินงานปี 2564 ว่า ปี 2564 ถือว่าเป็นปีที่บริษัทฯ มีความโดดเด่นและมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นผลมาจากการขยายยอดขายถ่านหิน ทั้งในประเทศและต่างประเทศเพิ่มขึ้น รวมถึงรายได้ให้บริการโลจิสติกส์ ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ประกอบกับการบริษัทฯ เป็นผู้ประกอบการจัดหาและจัดจำหน่ายถ่านหิน สำหรับโรงงานอุตสาหกรรม ทั้งในและต่างประเทศ ที่มีความพร้อมทั้งด้านการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งมีระบบโลจิสติสก์ที่ครบวงจร ทำให้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้ราคาถ่านหินโลกช่วงปีที่ผ่านมามีความผันผวนค่อนข้างสูง โดยในปี 2564 มีรายได้รวมจากธุรกิจถ่านหิน และธุรกิจการให้บริการโลจิสติกส์12,883.6 ล้านบาท เติบโต 63.1% และกำไรสุทธิอยู่ที่ 638 ล้านบาท เติบโต 157.6% เมื่อเทียบกับ 2563 ซึ่งผลการดำเนินงานในรอบปี 2564 ถือว่าเป็นการทำสถิติสูงสุดใหม่นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทฯ มา

นายพนม กล่าวว่า อัตราการเติบโตดังกล่าวแบ่งเป็นสัดส่วนรายได้ธุรกิจถ่านหิน 12,413.7 ล้านบาท เติบโต 64.4% เมื่อเทียบกับ 2563 ซึ่งบริษัทฯ มียอดขายถ่านหินในต่างประเทศ อยู่ที่ 0.3 ล้านตัน ลดลง 48.61% เมื่อเทียบกับปี 2563 และปริมาณยอดขายถ่านหินในประเทศ อยู่ระดับ 4.8 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 27% เมื่อเทียบกับปี 2563 ส่งผลให้ ณ สิ้นปี 2564 บริษัทฯ มีปริมาณยอดขายถ่านหินรวมอยู่ที่ 5.1 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 15.8% เมื่อเทียบกับปี 2563 นับว่าเป็นสถิติยอดขายสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่รายได้จากธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์มีการขยายตัวอย่างโดดเด่นมาก โดยในปี 2564 มีรายได้จากธุรกิจโลจิสติกส์ 2,002 ล้านบาท เติบโต 40% เมื่อเทียบกับ 2563 โดยแบ่งเป็นรายได้จากการให้บริการกับกลุ่มบริษัทในเครือบริษัทฯ จำนวน 1,532 ล้านบาท และรายได้จากให้บริการกับกลุ่มลูกค้าภายนอก 470 ล้านบาท ซึ่งแบ่งเป็นสัดส่วนรายได้การให้บริการบริษัทในเครือที่ 76.5% และให้บริการกลุ่มลูกค้าภายนอกที่ 23.5%  

ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผล แบ่งเป็นการจ่ายจากหุ้นปันผลในอัตรา 8 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นปันผล หรือคิดเป็นอัตราการจ่ายหุ้นปันผลในอัตราหุ้นละ 0.0625 บาท และจ่ายปันผลเป็นเงินสดในอัตรา  0.2070 บาทต่อหุ้น ส่งผลให้มีอัตราการจ่ายปันผลรวม 0.2695 บาทต่อหุ้น โดยกำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 14 มีนาคมนี้ และเตรียมจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นภายในวันที่ 17 พฤษภาคมนี้ ซึ่งถือเป็นการตอกย้ำศักยภาพทางการเงินของบริษัทฯ ที่แข็งแกร่ง

นายพนม กล่าวว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมถ่านหินในปี 2565 ปัจจุบันมีสัญญาณความต้องการใช้ถ่านหินทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ยังมีต่อเนื่อง เพราะถ่านหินถือเป็นเชื้อเพลิงที่มีต้นทุนที่ต่ำ เมื่อเทียบกับต้นทุนเชื้อเพลิงจากชนิดอื่นๆ โดยบริษัทฯ คาดการณ์ว่าการใช้เชื้อเพลิงถ่านหินในกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมในประเทศไทย ยังมีปริมาณที่คงที่ในอีก 5 ปีข้างหน้า สำหรับแนวโน้มการเติบโตของบริษัทฯ ในปี 2565 นั้น ยังมุ่งเน้นการขยายตลาดธุรกิจถ่านหินทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งการขยายธุรกิจด้านโลจิสติกส์ ขนส่งทางน้ำ-ทางบก-ท่าเรือ-คลังสินค้า โดยขยายการให้บริการขนส่งสินค้าอุตสาหกรรม เพิ่มขึ้น และได้มีการเซนต์สัญญาการให้บริการขนส่งสินค้าล่วงหน้า จำนวน 3 ล้านตันในเวลา 3 ปี ส่งผลให้บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้ในปี 2565 ที่ระดับ 15,000 ล้านบาท และตั้งเป้าปริมาณยอดขายถ่านหิน 6.5 ล้านตัน

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image