‘ตราเพชร’ เปิดแผนธุรกิจปี 65 ตั้งเป้าโต 5% รับจังหวะตลาดวัสดุก่อสร้างฟื้นตัว จ่อจ่ายปันผล 0.46 บาทต่อหุ้น

‘ตราเพชร’ เปิดแผนธุรกิจปี 65 ตั้งเป้าโต 5% รับจังหวะตลาดวัสดุก่อสร้างฟื้นตัว จ่อจ่ายปันผล 0.46 บาทต่อหุ้น

นายสาธิต สุดบรรทัด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT ผู้ผลิตและจำหน่ายระบบหลังคา ไม้สังเคราะห์และบอร์ดไฟเบอร์ซีเมนต์ บอร์ดตกแต่งผนัง อิฐมวลเบา คานทับหลัง เคาน์เตอร์มวลเบาสำเร็จรูป ร้านกาแฟสำเร็จรูป (DIAMOND Cafe) และบริการติดตั้งโครงหลังคาและกระเบื้องหลังคา ภายใต้เครื่องหมายการค้า ตราเพชร เปิดเผยว่า แผนดำเนินงานปี 2565 ได้วางเป้าหมายรายได้เติบโต 5% สอดคล้องทิศทางฟื้นตัวของตลาดวัสดุก่อสร้าง แม้ต้องเผชิญความท้าทายจากราคาวัตถุดิบและค่าขนส่งที่เพิ่มขึ้น ซึ่งบริษัทฯ เตรียมความพร้อมบริหารจัดการในทุกด้านให้มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยมุ่งรักษาอัตราการเดินเครื่องจักรเฉลี่ยทั้งปีไม่ต่ำกว่า 80-90% เพื่อให้เกิด Economy of Scale หรือต้นทุนการผลิตต่อหน่วยต่ำ พร้อมรักษาอัตราการทำกำไรขั้นต้นเฉลี่ยอยู่ที่ 27-29% โดยมีทีมผู้บริหารคนรุ่นใหม่เข้ามาช่วยขับเคลื่อนธุรกิจในแต่ละสายงาน ได้แก่ สายการขายและการตลาด สายการผลิตและวิศวกรรม และสายการบริหารกลาง เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้

​นายสาธิต กล่าวว่า กลยุทธ์ปี 2565 บริษัทฯ ได้ใช้เทคโนโลยีไอทีเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน ทั้งการขายและการตลาด การบริหารจัดการต้นทุนและวางแผนการผลิต อาทิ ใช้เทคโนโลยีวิเคราะห์ข้อมูลยอดขายแต่ละพื้นที่ เพื่อวางแผนเพิ่มร้านค้าปลีกวัสดุก่อสร้างรายย่อยในพื้นที่ที่มีศักยภาพเติบโต หรือการใช้ Robotic, ระบบ Automation และ IoT ยกระดับโรงงานสู่ Smart Factory เพื่อเพิ่มความสามารถด้านการผลิตและลดต้นทุน ควบคู่การบริหารจัดการด้านทรัพยากรและพลังงานหมุนเวียนอย่างคุ้มค่า ภายใต้แนวคิด Circular Economy ส่วนแผนงานการขายและการตลาดปี 2565 บริษัทฯ มุ่งสื่อสาการตลาดผลิตภัณฑ์ตอกย้ำแนวคิด สวยครบเซต ตราเพชรทั้งหลัง ด้วยจุดเด่น Function และ Fashion ของผลิตภัณฑ์ที่ติดตั้งง่าย สะดวก รวดเร็ว มีรูปแบบและสีสันสวยงาม ผ่านช่องทาง Online และ Offline มุ่งเน้นผลลัพธ์ด้านยอดขายทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ พร้อมสร้างการรับรู้ถึงผลิตภัณฑ์ ไดมอนด์ คาเฟ่ ร้านกาแฟสำเร็จรูปเพื่อขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ที่ต้องการทำธุรกิจร้านกาแฟด้วยงบประมาณไม่บานปลายและขยายไปสู่การตกแต่งเป็นร้านค้า ร้านอาหาร หรือออฟฟิศจากทีมช่างมืออาชีพ

“เรามั่นใในศักยภาพการดำเนินงานด้วยจุดแข็งด้านแบรนด์และความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่อบสนองความต้องการผู้บริโภค และการบริหารจัดการด้าน Product Mix เพิ่มสัดส่วนการขายสินค้าที่มีกำไรขั้นต้นที่ดีควบคู่กับการรักษาอัตราการเดินเครื่องจักรเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 80-90% รับมือความเสี่ยงจากปัจจัยต้นทุน เพื่อผลักดันการเติบโตในปี 2565 ให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้นายสาธิต กล่าว

​นายสาธิต กล่าวว่า ผลการดำเนินงานปี 2564 สามารถทำสถิติสูงสุดใหม่ ตอกย้ำถึงศักยภาพการดำเนินธุรกิจที่แข็งแกร่ง ท่ามกลางความท้าทายจากผลกระทบโควิด-19 ในรอบปี 2564 โดยทำรายได้รวม 4,825.45 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.44% และมีกำไรสุทธิ 585.44 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.03% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2563 สูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้ เป็นผลให้กำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) ของทั้งปีเพิ่มขึ้น 9.68% จาก 0.62 บาทต่อหุ้นเป็น 0.68 บาทต่อหุ้น ทำให้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2565 จึงมีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานงวดครึ่งปีหลังของปี 256(กรกฎาคม ธันวาคม 2564) ในอัตรา 0.24 บาทต่อหุ้น โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 9 มีนาคม 256และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 13 พฤษภาคมนี้ เมื่อรวมกับการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานงวดครึ่งปีแรก 2564 (มกราคม มิถุนายน 2564) ในอัตรา 0.22 บาทต่อหุ้น บริษัทฯ จะจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นจากผลการดำเนินงานปี 2564 ในอัตรารวมทั้งสิ้น 0.46 บาทต่อหุ้น ถือเป็นอัตราการจ่ายปันผลต่อปีสูงที่สุดนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทฯ ตอกย้ำการเป็นหุ้นที่สร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่ผู้ถือหุ้นอย่างสม่ำเสมอ

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image